ตราด 5 ก.พ.- นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ชุมชนบ้านเปร็ดใน จ.ตราด เยี่ยมชมชุมชนต้นแบบความสำเร็จในการบริหารจัดการป่าชายเลน พร้อมพบปะประชาชน ขออย่าฟังข้อมูลบิดเบือน และยั่วยุให้เกิดความแตกแยก ยืนยันเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งต้องการเกิดขึ้น ขอประชาชนคิดให้ดีว่าจะเลือกใคร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ลงพื้นที่จังหวัดตราดและจันทบุรี เพื่อตรวจราชการ และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ระหว่างวันที่ 5-6กุมภาพันธ์ และมาถึงท่าอากาศยานตราด เมื่อเวลา 08.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ลงพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์บริหารจัดการน้ำและป่าชายเลน ชุมชนบ้านเปร็ดใน ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมือง จังหวัดตราด เยี่ยมชมชุมชนต้นแบบความสำเร็จ ในการบริหารจัดการป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน ที่น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ควบคู่กับการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อบริหารจัดการทรัพยากร จนเกิดความมั่นคงและสามารถปลดหนี้นอกระบบ ด้วยกองทุนหมู่บ้านจนสำเร็จเกิดความมั่นคงของเศรษฐกิจชุมชนนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ รับฟังบรรยายายสรุปและพบปะประชาชน กล่าวขอบคุณ และแสดงความยินดีกับความสำเร็จของชุมชนบ้านเปร็ดใน ที่สามารถช่วยกันบริหารจัดการป่าชายเลน ควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำจืด และทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ จนสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งดีที่คนในชุมชนช่วยเหลือและร่วมมือกัน รัฐบาลก็พยายามให้การข่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่บางครั้งมีงบประมาณจำกัด ไม่เพียงพอที่จะกระจายลงไป ดังนั้น ประชาชนต้องช่วยตัวเองและช่วยรัฐบาลด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำลังจะนำร่างพ.ร.บ.สถาบันการเงินชุมชน และร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เข้าสู่การพิจาณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เชื่อว่าจะผ่านได้และไม่มีปัญหา ซึ่งรัฐบาลนี้ได้เร่งผลักดันกฎหมายออกมาให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ต้องการให้ประชาชนเข้มแข็งด้วยตัวเอง จะเอาเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเรียนรู้ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้บ้านเมืองขับเคลื่อนไปได้ คือความสงบเรียบร้อย ปลอดภัย เพราะหากสถานการณ์ไม่สงบ ก็ทำอะไรไม่ได้ ขอให้ร่วมมือกัน อย่าให้ใครมาบิดเบือน หรือยั่วยุให้เกิดความแตกแยก ตนไม่ได้มาพูดเพื่อให้เลือกข้าง ให้ชอบหรือไม่ชอบตน แต่ในวันนี้ ที่บ้านเมืองเรายังไม่สงบ เพราะคนไม่กี่กลุ่ม รัฐบาลจะทำให้เรียบร้อย เพื่ออนาคตของคนไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้นำท้องถิ่นว่า ให้ช่วยรัฐบาลขับเคลื่อนการทำงานตามกลไกของกฎหมาย และยอมรับกระบวนการยุติธรรม เพราะวันนี้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มั่วไปหมด เมื่อกระบวนการยุติธรรมตัดสินถูกใจ ก็เห็นดีด้วย แต่พอตัดสินไม่ถูกใจก็ต่อว่า ขอให้ทุกคนยอมรับกระบวนการยุติธรรม ตนไม่เคยก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ยังต้องเกิดขึ้น แต่ประชาชนต้องเลือกให้เป็น หากเลือกมาแล้วได้แบบเดิม อนาคตก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ขอให้คิดใหม่ว่าจะพาบ้านเมืองไปในทิศทางใด เมื่อนายกรัฐมนตรี ถามประชาชนว่า รู้หรือยังว่าอนาคตจะเลือกใคร แต่ประชาชนไม่ตอบ ก่อนจะบอกว่า ตอนนี้อยากถ่ายรูปกับนายกฯ นายกฯ จึงถามต่อว่า ถ้าถ่ายรูปแล้วจะร่วมมือกับรัฐบาล หรือไม่ ประชาชนจึงตอบว่า ร่วมมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์บริหารจัดการน้ำและป่าชายเลนชุมชนบ้านเปร็ดใน รวมทั้งหมด 4 จุด คือ จุดที่ 1 ป่าชายเลนบ้านเปร็ดใน มรดกผืนป่าตะวันออก จุดที่ 2 ระบบการบริหารจัดการน้ำจืด-น้ำเค็ม จุดที่ 3 การสำรองและกักเก็บน้ำจืด และจุดที่ 4 เกษตรผสมผสานตามแนวทางทฤษฎีใหม่
สำหรับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ชุมชนบ้านเปร็ดใน มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 16,103 ไร่ ลักษณะพื้นที่ของชุมชนเป็นที่ดอน สูงจากระดับน้ำทะเล 200 เมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเพาะปลูก ทำสวนยางพารา ทำสวนผลไม้ อาชีพประมง ข้าราชการ รับจ้าง ค้าขาย
จากนั้น จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ จะเดินทางไปยังศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ (เกาะช้าง) เพื่อรับฟังข้อเสนอการพัฒนาเกาะช้าง เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อย่างยั่งยืน การบริหารจัดการขยะ การแก้ปัญหาน้ำ การคมนาคมสัญจร และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เป็นต้น พร้อมพบผู้ประกอบการและชาวบ้านเกาะช้าง ประมาณ 300 คน อีกทั้งเยี่ยมชมจุดท่องเที่ยวและพบปะนักท่องเที่ยว บริเวณชายหาดคลองพร้าว.-สำนักข่าวไทย