ตลท.ต่ออายุ MOU กับตลาดหลักทรัพย์เกาหลี พัฒนาแพลตฟอร์มหุ้นสตาร์ทอัพ

โซล เกาหลีใต้ 5 ก.พ. – ตลท. ต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับตลาดหลักทรัพย์เกาหลี พัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้บริการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี แพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นสตาร์ทอัพ


นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ลงนามต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับตลาดหลักทรัพย์เกาหลี (Korea Exchange: KRX)  โดยมีระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 – 4 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งสอดคล้องกับแผนงานเชื่อมโยงการระดมทุนและการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสการขยายธุรกิจในระยะยาว โดยทั้ง 2 ตลาดหลักทรัพย์สานต่อการทำงานร่วมกันพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยขยายโอกาสการลงทุนให้กับผู้ลงทุน รวมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นสตาร์ทอัพ ( LIVE Platform สำหรับ Startup ) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการระดมทุนของบริษัทสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ โดยตลท.จะเปิดตัวในไตรมาส 1 ปีนี้ คาดว่าเบื้องต้นมี 10 บริษัท  มีลักษณะคล้ายกับ แพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นสตาร์ทอัพของเกาหลี ( KRX Startup Market ) ซึ่งตลาดหลักทรัพย์เกาหลีเปิดตัวไปเมื่อปี 2559  เพื่อเป็นแหล่งระดมทุนให้สตาร์ทอัพและต่อยอดไปสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีจำนวนสตาร์ทอัพเข้าจดทะเบียน 43 บริษัท โดย 31 บริษัทมาจากการทำ Crowdfunding 

นายจีวอน จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตลาดหลักทรัพย์เกาหลี กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์เกาหลี ได้ริเริ่มนวัตกรรมมาสู่ตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค ด้านธุรกิจข้อมูลและการสร้างระบบการระดมทุนใหม่สำหรับสตาร์ทอัพ ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประสบความสำเร็จในการเติบโตทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ พร้อมการเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค เมื่อผนวกความสำเร็จของตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกัน ตลาดหลักทรัพย์เกาหลีเชื่อว่า ความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะนำไปสู่บทบาทใหม่ในการสร้างการเติบโตของธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป 


ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เกาหลีได้ลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างกัน ตั้งแต่ปี 2549 มีการทำงานร่วมกันอีกหลายด้าน อาทิ การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาระบบชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ สำหรับตราสารทุน และอนุพันธ์  เป็นต้น  ตลาดหลักทรัพย์เกาหลี ประกอบด้วย 4 ตลาด มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1.78 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 8,038 ล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนบริษัทจดทะเบียน 2,134 บริษัท แบ่งเป็นบจ. ในประเทศ 2,114 บริษัท และ บจ.ต่างประเทศ 20 บริษัท และในปี 2560 มีบจ.เข้าใหม่ 80 บริษัท .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง