เวทีเสวนา “แผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องไกลตัว” แนะปรับแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า

รัฐสภา 28 เม.ย. – เวทีเสวนา “แผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องไกลตัว” แนะปรับเรื่องแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า “นันทนา” เสนอสร้าง อนุสรณ์สถานแห่งความโกงไว้เตือนใจ แนะแก้ รธน. เปิดช่องตรวจสอบองค์กรอิสระ


หอสมุดรัฐสภาจัดเสวนา เรื่อง “แผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องไกลตัว: พร้อมแค่ไหนกับการรับมือแผ่นดินไหว” โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติ และผู้แทนภาคประชาชน ได้แก่ นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา นางสาวศนิวาร บัวบาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย นายนคร ภู่วโรดม อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ นายไพบูลย์ นวลนิล นักแผ่นดินไหววิทยา เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และข้อเสนอเชิงนโยบายว่าด้วยแนวทางรับมือภัยแผ่นดินไหวในประเทศไทย

นายไพบูลย์เสนอ ให้มีBangkok metropolitan Strong Motion Network (BSMN) เพื่อตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวทั้งระยะใกล้และไกลในพื้นที่กรุงเทพฯ ประมวลผลต่างๆ โดยเห็นว่าการมีเครือข่ายตรวจวัดของกทม.เป็นสิ่งที่ลงทุนไม่มาก ให้มีเขตละ 1 เครื่องสามารถลดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินได้ เพื่อจะรู้ความถี่และแรงสั่นสะเทือน นำไปประเมินความแข็งแรงของอาคารได้ ทั้งนี้เห็นว่า สิ่งสำคัญ อยู่ที่ ระบบการเตือนภัย พร้อมยกตัวอย่างประเทศอื่นที่สามารถแปลผลได้ 30 วินาที แต่กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยอยู่ที่ 10 นาที ทำให้สิ่งที่เตือนภัยไม่ใช่ warning แต่เป็น Reporting


นายไพบูลย์ยังเสนอให้ ไทยพัฒนาเกี่ยวกับการแจ้งเตือนแผ่นดินไหว เพิ่มจำนวนสถานีสามารถรองรับการเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้ เปลี่ยนวิธีแปลผลปัจจุบันที่มีความล่าช้าให้สามารถรู้ตำแหน่งและขนาดแผ่นดินไหวได้เร็วขึ้นภายในเวลาอย่างน้อย 1 นาที ส่งบุคลากรไปอบรมการแปลผลแผ่นดินไหวอย่างรวดเร็วเพื่อใช้ในการเตือนภัยในต่างประเทศเช่นญี่ปุ่นอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์ และให้มีช่องทางการส่งข้อมูลการสื่อสารความเร็วสูง รวมถึงหน่วยงาน อิสระที่ทำหน้าที่แจ้งเตือน และยกเลิกการแจ้งเตือน นอกจากนี้ยังเสนอให้แก้ปัญหาเชิงนโยบายในการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านภัยพิบัติเพิ่มจำนวนนักวิชาการ โดยให้ทุนไปเรียนต่อ ต่างประเทศที่มีความชำนาญเฉพาะทางและเพิ่มอัตรากำลังสายวิชาการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติและให้หน่วยงานเตือนภัยพิบัติเป็นหน่วยงานอิสระ และตั้งสถานีการวัดแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวตามแนวชายแดนให้มากยิ่งขึ้นและเห็นควรให้มีการออกกฎหมายบังคับให้ต้องมีตัวเตือนความสั่นไหวของอาคาร

ด้านนายนคร ชี้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตรวจสอบการออกแบบของวิศวกร กลไกการตรวจสอบยังไม่ได้ดำเนินการ พร้อมเห็นว่าในอนาคตกฎหมายควรมีกลไกถ่วงดุลมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเห็นปัญหา ไม่มีใครจ่ายเพิ่มเพื่อความปลอดภัย เป็นการแข่งขันทางด้านธุรกิจ พร้อมทั้งเห็นว่าควรมีเครื่องมือติดตั้งเตือนแผ่นดินไหว ในอาคาร เพื่อ ให้ผู้มีอำนาจ ประเมิน สั่งการได้ทันที ว่าจะต้องอพยพออกจากอาคารหรือไม่ เพื่อลดการสูญเสีย ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องจดจำและอยู่กับมัน ขอให้อย่าลืม แต่อย่าตื่นตระหนก เพราะหากการ์ดตกเจอภัยในอนาคต จะเกิดปัญหาถ้าเราไม่ได้เตรียมการป้องกันเอาไว้

นางสาวนันทนา คิดว่าระบบการตรวจสอบจัดซื้อจัดจ้างของเรามีปัญหาแน่ๆ แผ่นดินไหวที่พม่า แต่ตึกสตง. ถล่มถือเป็นวิกฤตชาติที่ต้องถอดบทเรียนเรื่องใหญ่ พร้อมเห็นว่ารัฐบาลสอบตกเกี่ยวกับการสื่อสารในภาวะวิกฤต ขณะนี้มีข่าวดีว่า cell boardcast สามารถทำงานได้แล้ววันที่ 2 พฤษภาคมจะมีการซ้อม


ทั้งนี้ผู้ที่จะมาดำเนินการอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรอิสระ เป็นหน่วยงานของรัฐ แต่แค่ไม่ผูกพันหรือใต้บังคับบัญชาของรัฐบาล อาจให้กระทรวงดีอีดูแล และเห็นว่าอาคารสาธารณะของทางราชการควรจะต้องมีเครื่องมือเตือนความสั่นไหวหรือแผ่นดินไหว

นางสาวนันทนา ยังเปิดเผยถึงการถล่มของตึกสตง.ที่มีมูลค่า 2 พันล้านบาทว่า ถ้ามีบทบัญญัติให้ประชาชนหรือสส.เข้าชื่อ 1 ใน 4 เพื่อยื่นถอดถอนองค์กรอิสระได้คงมีการเดินหน้ายื่นแล้ว แต่ไม่มี การสามารถตรวจสอบถ่วงดุลองค์กรอิสระได้จึงมีพฤติกรรมแปลกและเป็นอิสระจากประชาชน จะทำอะไรหรือใช้งบประมาณ ไปทำอะไรก็ได้ เพราะหน่วยงานราชการถ้าใช้ไม่หมดต้องคืนคลัง

“องค์กรอิสระถือว่าอิสระมาก และบอกว่าเก็บเงินเหลือจากปีงบประมาณ มาสร้าง ใช้เก้าอี้ตัวละ 100,000 บาทฝักบัว 40,000 บาท ถือเป็นการที่กฎหมายไม่เปิดโอกาสให้ตรวจสอบถ่วงดุล ตอกย้ำรัฐธรรมนูญปี 60รั่วทุกจุด จึงเห็นควรให้มีการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ตรวจสอบองค์กรอิสระได้ ซึ่งงบ 2,000 ล้านนี้เปลือยเปล่าระบบทั้งหมดทั้งจีนเทานอมินีและ คนอายุ 85 เซ็นแบบก่อสร้างได้ เหล็กเส้นที่ดูแล้วเหมือน ลวดมากกว่า ทำให้เห็นกระบวนการทั้งหมด 2,000 ล้านนี้ ปฏิรูประบบการจัดซื้อจัดจ้างของระบบราชการไทยและองค์กรอิสระใหม่ ต้องตรวจสอบและถ่วงดุลให้ได้ วัฒนธรรมไทยต้องมีวัฒนธรรมหน้าบาง เหมือนญี่ปุ่นที่เกิดเรื่องต้องลาออก อย่าให้ตึก 2 พันล้านถล่มไปฟรีๆใช้เป็นกรณีศึกษา ทำให้ระบบการจัดซื้อจ้างบ้านเราเปลี่ยนไป ทำให้คนอยู่ในกระบวนการรอเงินทอน 20-30% มีหนาว ดิฉันเสนอให้มีการสร้าง อนุสรณ์สถานแห่งความโกงให้เป็นที่เตือนใจว่าเรา จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ การจัดซื้อจัดจ้าง ในภาคราชการต่อไปจะไม่มีแบบนี้ใครที่ทำจะได้รับโทษทางแพ่งและอาญา โดยเอารูปผู้เสียชีวิตมาเพื่อรำลึกว่าเป็นเหยื่อของการทุจริตด้วย”นางสาวนันทนา กล่าว

นางสาวศนิวาร กล่าวว่า หน่วยงานแจ้งว่าจะทดสอบวันที่ 2 พฤษภาคมและภายในเดือนกรกฎาคม จะสามารถใช้งานได้อย่างแน่นอนในบางพื้นที่ ส่วนเรื่องความพร้อมในการเตรียมการรับมือกับแผ่นดินไหว ของประเทศไทยนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย เพียงแต่ไม่เจอบ่อยครั้ง เจออุทกภัยวาตภัยดินโคลนถล่ม แต่ไม่ได้มีการทบทวนบทเรียน และควรเตรียมพร้อม อย่างไร ขณะที่หน่วยงานภาครัฐต้องแชร์ข้อมูลกัน เพราะปัจจุบันต่างคนต่างทำงานๆ
มีข้อมูลของตนเอง

นางสาวศนิวาร กล่าวว่าปัญหาอยู่ที่โครงสร้างเราพูดมาเรื่องรัฐโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงินภาษีมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบ พร้อมเสนอถึงความเป็นไปได้ที่จะทำ platform มีข้อมูลประวัติผลงานที่ผ่านมา ของ บริษัทผู้รับเหมา เพื่อให้ประชาชนเข้าไปดูได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]