กรุงเทพฯ 22
ม.ค.- ภาคเอกชนมอง “เชฟรอน-ปตท.สผ.”ชนะประมูลโครงการ
แหล่ง “เอราวัณ-บงกช” ด้าน อธิบดีกรมเชื้อเพลิง คาดหวัง
ปตท.สผ.ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ จะเข้าประมูลแหล่งเอราวัณ ด้าน
ปตท.สผ.ยังรอคำตอบจากเชฟรอนเรื่องการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น
นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร ประธานกรรมการ บริษัท ซีออยล์
จำกัด (มหาชน) หรือ SEAOIL กล่าวว่า บริษัทซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินการในธุรกิจบริการ-สำรวจและผลิตปิโตรเลียม
คงไม่เข้าร่วมประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่หมดอายุในปี 2565-2566 คือ
แหล่งเอราวัณและบงกช และคาดว่า ผู้ที่เป็นผู้ดำเนินการในปัจจุบัน คือ เชฟรอนฯ และ
บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. จะเป็นผู้ชนะประมูลเช่นเดิม
เพราะเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลของแหล่งผลิตดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม
เป็นที่น่าเสียดายที่รัฐบาลอาจจะได้รายได้ น้อยลงจากการประกาศประมูล ไม่ใช่แนวทางการเจรจากับรายเดิมเพื่อต่อรองผลประโยชน์ต่อภาครัฐที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งการประกาศประมูล ก็ทำให้รายเก่าไม่ลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิตเท่าที่ควรจะเป็น
และยังไม่บำรุงรักษาเครื่องจักรในเรื่องการสำรวจและผลิต
ในขณะเดียวกันก็คาดว่าทั้งสองราย จะเสนอราคาประมูลที่ไม่สูงเพราะมีได้เปรียบกับรายใหม่ที่เสนอเข้ามา
และคาดว่าจะเสนอประมูลในราคาที่ต่ำกว่าเมือเปรียบเทียบกับการเจรจาต่อรองกับภาครัฐ
สำหรับการดำเนินการของ
SEAOIL ในปีนี้จะพยายามหาทางเพิ่มรายได้ จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
โดยยอมรับว่า ที่ผ่านมาได้รับผลจากช่วงราคาน้ำมันที่ลดลงจากในอดีตที่เคยสูงประมาณ
80-90 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาราคาลดลงเหลือประมาณ 30-40
ดอลลาร์/บาร์เรล ส่งผลให้การลงทุนของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมลดลง ก็ทำให้การบริการของบริษัทลดลง
ในขณะที่การเข้าร่วมทุนใน บริษัท แพน
โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (สยาม) ลิมิเต็ด (“POES”) ในสัมปทานแปลงที่ L53/48 ตั้งอยู่ที่
อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ก็มีรายได้ลดลง ซึ่งปัจจุบันกำลังผลิตน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ
400 บาร์เรล/วัน
นายวีระศักดิ์
พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมประมูลเอราวัณ-บงกช
อย่างน้อย 3 ราย โดยคาดหวังว่า ปตท.สผ. ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจะเป็นแกนหลักในการประมูลทั้ง
2 แหล่ง แม้ปัจจุบันจะเป็นผู้ดำเนินการในแหล่งบงกช และแหล่งเอราวัณเป็นถือหุ้นข้างน้อย
โดยมีเชฟรอนฯเป็นผู้ดำเนินการก็ตาม ซึ่งหาก ปตท.สผ.ประกาศเข้าแข่งขันประมูลทั้งสองแหล่งก็จะทำให้การแข่งขันจะดีขึ้น
และรัฐจะได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ซึ่งตามนโยบายรัฐบาลก็คาดว่าจะเริ่มประกาศประมูลได้ในเดือนมีนาคมนี้
นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ.นายสมพร
กล่าวว่า ปตท.สผ.ยังอยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มเชลล์
เพื่อซื้อหุ้นในสัดส่วนที่เชลล์ถืออยู่ในแหล่งบงกช
หลังเชลล์แสดงความสนใจที่จะขายหุ้น รวมถึงยังเจรจากับเชฟรอนฯ
เพื่อขอเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในแหล่งเอราวัณ ซึ่งหากไม่สำเร็จ
ปตท.สผ.ก็พร้อมที่จะยื่นแข่งขันประมูลแหล่งเอราวัณด้วย
ปัจจุบัน
แหล่งบงกช มีปตท.สผ. เป็นOperatorโดยถือหุ้นร้อยละ 44.44 รองลงมาคือบริษัท โททาล อีแอนด์พี
ไทยแลนด์ร้อยละ 33.33และบริษัท เชลล์ อินทีเกรทเต็ด แก๊ส
ไทยแลนด์ พีทีอี ลิมิเต็ดร้อยละ 22.22
ส่วนแหล่งเอราวัณ
มีเชฟรอนฯ เป็นOperatorถือหุ้นร้อยละ 71.25 , บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซพลอเรชั่น
จำกัด (MOECO)ร้อยละ 23.75%และ ปตท.สผ.ร้อยละ 5
ในขณะเดียวกัน
ปตท.สผ.อยู่ระหว่างรอผลการเข้าร่วมประมูลแหล่งปิโตรเลียมในตะวันออกกลางเพิ่มในลักษณะการซื้อกิจการ(M&A) คาดว่าจะรู้ผลภายในไตรมาส 1ปีนี้ และ.ยังรอผลยื่นประมูลแหล่งก๊าซในมาเลเซีย
ซึ่งเป็นแหล่งใหม่ คาดว่าจะรู้ผลในเร็วๆนี้–สำนักข่าวไทย