กทม.9 ม.ค.-ตร.แจงข้อเท็จจริงคดีเด็กหญิง 14 ถูกข่มขืนกระทำชำเราท้องที่ สภ.เชียงกลม จ.เลย ยันตำรวจไม่ทำงานช้าตามที่ญาติเหยื่อกล่าวหา
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็ก อายุ 14 ปี กรณีถูกชายอายุ 19 และ 17 ปี ข่มขืนในบ้านหลังหนึ่งที่ผู้เสียหายไปร่วมงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เหตุเกิดท้องที่ สภ.เชียงกลม จ.เลย โดยญาติเหยื่อร้องขอความเป็นธรมกับสื่อ อ้างคดีไม่มีความคืบหน้าพร้อมทั้งถูกขู่ฆ่าว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ส่งตัวผู้เสียหาย ไปตรวจหาร่องรอยการถูกข่มขืนฯและตรวจเก็บคราบอสุจิหรือสารคัดหลั่งในช่องคลอดของผู้เสียหาย พร้อมตรวจที่เกิดเหตุ เก็บหลักฐานอย่างละเอียด รวมทั้งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ต่อมา ผู้ต้องหาทั้ง 2 เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”ทั้ง 2 ให้การปฏิเสธ ส่งศาลเยาวชนและครอบครัว ศาลไต่สวนเบื้องต้นเห็นว่ามีมูลความผิดจึงสั่งให้ควบคุมตัวไปยังสถานพินิจ ตามเขตอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัว ซึ่งต่อมาได้ประกันตัว ที่ญาติอ้างต่อสื่อว่า ตำรวจไม่รับแจ้งความและให้ญาติผู้เสียหายไปจับคนร้ายเองนั้น ไม่เป็นความจริง อาจเกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างตำรวจกับญาติผู้เสียหาย ยืนยันตำรวจสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา ยึดพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือผลการตรวจพิสูจน์ทางการแพทย์ เนื่องจากสามารถยืนยันความผิดผู้ต้องหาได้ ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจหรือสอบสวนล่าช้า ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมรอบคอบเพื่อได้หลักฐานและข้อมูลที่น่าเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาเป็นผู้กระทำความผิดจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาหรือขอหมาย และเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่ปรากฏได้.-สำนักข่าวไทย
