ทำเนียบ 28 ก.พ.- นายกฯ เผยคุยผู้นำจีนหลายระดับ ก่อนส่ง 40 ชาวอุยกูร์กลับจีน ให้คำมั่นทุกคนปลอดภัย ไม่ถูกดำเนินคดี ด้าน รมต.ไทย ติดตามความเป็นอยู่ได้ ยึดหลักสิทธิมนุษยชน ยันทุกคนสมัครใจ ลั่นไม่มีประเทศที่สามขอรับตัว แม้แต่ประเทศที่ประณามไทย
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงไทยโดนประณามจากสหรัฐอเมริกา และยุโรป กรณีส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คน ที่ถูกคุมขังในไทยกว่า 11 ปี กลับประเทศจีน ว่า เราได้ตรวจเช็กว่าทำอะไรได้บ้าง ชาวอุยกูร์เข้าประเทศไทยมาผิดกฎหมายและติดคุกที่ไทยมา 11 ปีแล้ว นั่นคือการลงโทษที่นานและ 11 ปีที่ผ่านมาได้เช็กข้อมูลเรียบร้อย ว่า ยังไม่เคยมีประเทศที่สาม ขอรับตัวชาวอุยกูร์เหล่านี้กลับประเทศ ซึ่งประเทศจีนได้ติดต่อมาและมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคนจีน และเมื่อยืนยันได้ว่าเป็นคนของประเทศใดก็ต้องส่งกลับประเทศนั้น ไม่ได้ทำผิดกฎสหประชาชาติ หรือหลักสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด และเราทราบดีเรื่องสิทธิมนุษยชนการที่เขามาอยู่ 11 ปีก็เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะถูกกักขัง เมื่อได้คุยกับทางการจีนแล้วมีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าหากไทยส่งตัวอุยกูร์กลับไปเขาจะไม่ต้องถูกดำเนินคดี สอบสวนอะไร และสามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวของตนเองได้ ยอมรับว่ามีการคุยกันมาสักพัก เมื่อมีการจัดการที่ดีของทั้งสองประเทศ ก็จะสามารถทำให้ชีวิตของเขาเหล่านั้นปลอดภัยได้ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอาจมีการจัดการที่ผิดพลาดแต่ครั้งนี้เราคุยกันในระหว่างที่ตนเองเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ได้พูดคุยกับผู้นำหลายระดับ และได้คุยกับรัฐมนตรีความมั่นคงของจีนด้วยตนเอง เขาก็ยืนยัน และตนเองคิดว่าเป็นเรื่องที่เขาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าทุกคนที่ได้กลับไปจะปลอดภัย ไม่เช่นนั้นเราไม่ทำการส่งไปแน่นอน หากไม่ได้รับการยืนยันแบบนี้ เป็นการยืนยันที่เราประสานกันและทำทุกอย่างให้ราบรื่นที่สุด หลายคนน่าจะได้เห็นรูปแล้วว่าเขากลับไปสู่อ้อมกอดครอบครัว เป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยจากนี้ทางการจีนได้อนุญาตให้ประเทศไทยสามารถบินไปเยี่ยมหรือสอบถามว่าชาวอุยกูร์ที่กลับไปแล้วมีความเป็นอยู่ มีชีวิตที่ดีหรือไม่ เขาไม่ได้ปิดกั้นตรงนี้กับเรา ซึ่งพอกระบวนการเป็นเช่นนี้เราไม่มีทางส่งไปโดยที่เราไม่รู้ว่าเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไร เราไม่ทำแน่ เราเน้นเรื่องสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว พอเรามีความมั่นใจ เราถึงดำเนินการ
ส่วนเสียงวิจารณ์ว่าการส่งตัวอุยกูร์ครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนทางการค้ากับจีน นายกรัฐมนตรี ยืนยันหนักแน่นว่าไม่มี ไม่มีการแลกเปลี่ยนทางการค้าใดๆ กับการส่งอุยกูร์ ไม่มีเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับการที่เราจะคุยเรื่องการค้า เราก็คุยกันค้า แต่นี้เป็นเรื่องของคนซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับสินค้า คนไม่ใช่สินค้า ไม่แลกกันแน่นอน
เมื่อถามว่าจะมีการชี้แจงกับสหรัฐอเมริกา หลังรัฐมนตรีต่างประเทศออกแถลงการณ์ประณามไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมีการอัปเดตข้อมูลและหลายประเทศก็ติดตามข้อมูลแต่ข้อมูลล่าสุดที่เราประสานอย่างจริงจังเป็นกิจจะลักษณะเราไม่ได้พูดกันเล่น ๆ และตนเอง ไม่ได้พูดออกสู่สาธารณะตั้งแต่แรกเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนเองได้พูดคุย และ ไปยืนยันรับรองความปลอดภัยเป็นเรื่องที่รัฐบาลรับทราบและ ต้องการให้ปลอดภัยที่สุด ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุข้อขัดข้องแม้กระทั่งการเดินทาง หรือทำอะไรที่ไม่เคารพสิทธิของเขา ทำรุนแรง จี้ ไม่มี ไปด้วยความสงบเรียบร้อย อย่างที่เห็นตั้งแต่ลงเครื่องเขากลับสู่ครอบครัวจริง ๆ หากลองคิดดูว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับประเทศเรา ภาพออกไปทั่วโลก เราจะพลิกคำสัญญากับประเทศเพื่อนบ้านหรือ มันก็จะผิด ทั่วโลกก็จะมองเห็น เพราะฉะนั้นถึงได้มีความมั่นใจ เมื่อกลับไปแล้ว ทางจีนจะดูแลคนกลุ่มนี้อย่างดี
ส่วนเมื่อวานที่นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ยืนยันว่ามีการส่งตัวชาวอุยกูร์ ต้องการที่จะได้รับการยืนยันก่อนใช่หรือไม่ ว่าจะถูกส่งกลับอย่างปลอดภัย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่จริงแล้วเป็นเรื่องทางการทูต ว่าใครจะเป็นคนแถลง ทางจีนจะพูดก่อนหรือไม่ ต้องมีการทูต แต่การรับรู้รับทราบตนเองทราบอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่สเหมาะสมหรือไม่ที่ต้องพูดตอนนั้น หากอยูาในวงสัมภาษณ์ เรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าตนเองพูดออกไปสองสามคำและข้อความถูกเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นมันเป็นเรื่องความมั่นคง เรื่องของประเทศ ไม่สามารถพูดคำสองคำแล้วเดินไปได้ มันตัองอธิบาย วันนี้จึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ ส่วนรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระรวงกลาโหม ได้ชี้แจงไปแล้ว
ส่วนหากมีสื่อไทยอยากไปติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองไม่แน่ใจถ้าเป็นสื่อจะอย่างไร เพราะที่คุยกันคือรัฐมนตรีสามารถไปได้ เรื่องสื่อตนเองไม่ทราบ เพราะมีเรื่องความมั่นคง
เมื่อถามว่าทางการจีนได้ชี้แจงหรือไม่ว่าชาวอุยกูร์ส่งกลับไปจะไปอยู่ในสถานที่ใด และรับรองความปลอดภัยอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนที่หารือกัน ทางการจีนพูดว่าจะใหัทุกคนกลับคืนสู่สังคมตามปกติ และกลับสู่ครอบครัว ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ได้เป็นอาชญากร แต่เข้าเมืองผิดกฎหมายและถูกคุมขังมาแล้ว 11 ปี นานมากแล้ว ซึ่งภาพที่ปรากฏก็ไม่เห็นมีการใส่กุญแจมืออย่างใด
ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่า ตุรกีขอรับตัวไป แต่สุดท้ายเกิดเหตุขัดข้อง นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไม่มีประเทศที่ 3 เสนอขอรับตัวอุยกูร์เลย อยากประเทศทึ่ออกมาประณามก็ไม่มีใครเสนอมาเลย เพราะฉะนั้นทางการจีนยืนยันว่าเป็นคนจีน ไทยก็ต้องส่งกลับ นั่นคือหลักปฏิบัติตามปกติ
เมื่อถามว่าชาวอุยกูร์ เดินทางกลับจีนด้วยความสมัครใจ และมีเอกสารยืนยัน ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเอกสารมีอะไรบ้าง แต่เรื่องกระบวนการตนเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยในทุกขั้นตอน ส่วนเรื่องเอกสารให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมชี้แจง ยืนยันชาวอุยกูร์ทุกคนสมัครใจ ไม่เช่นนั้น จะต้องลาก แต่นี่เขาเดินขึ้นเครื่องตามปกติ
ส่วนกังวลจะกระทบความสัมพันธ์กลุ่มประเทศมุสลิม หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวส่า ต้องอาศัยเวลาอธิบายและต้องดูด้วยว่าเมื่อเขากลับไปปลอดภัยจริงหรือไม่ ตนเองคิดว่า การที่เขาปลอดภัย ก็น่าจะเป็นเครื่องหมายในการอธิบายได้แล้วว่าเราได้ส่งเขากลับ ถ้าไม่ชัวร์เราไม่ทำอยู่แล้ว ถ้าส่งกลับไป แล้วเกิดอะไรขึ้น ตนคงรับไม่ได้ ย้ำว่าต้องชัวร์ ชัวร์แล้ว ไม่เช่นนั้นไม่ส่งกลับไปเช่นกัน
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันต่อว่า สื่อมวลชนของไทย สามารถเดินทางไปติดตามภายหลังที่ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีนได้ และในช่วงกลางเดือนมีนาคม พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะทางไปติดตาม เป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ไทยได้ส่งกลับไปที่จีน .-316 -สำนักข่าวไทย