กรุงเทพ ฯ 8 ม.ค. – หุ้นไทยปรับลงเล็กน้อย แรงขายทำกำไรช่วงท้ายตลาด หลังดัชนีปรับขึ้นมามาก ขณะที่เงินบาทแข็งค่าต่อเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในสัปดาห์นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดการซื้อขายวันนี้ (8 ม.ค.) ที่ระดับ 1,792.81 จุด ลดลง 2.64 จุด หรือร้อยละ 0.15 มูลค่าการซื้อขาย 78,350.59 ล้านบาท โดยการเคลื่อนไหวของหุ้นไทยอยู่ในแดนบวกเกือบตลอดวัน โดยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐ แต่มาติดลบในช่วงท้ายตลาด ดัชนีสูงสุดของวันที่ 1,813.17 จุด และต่ำสุดที่ 1,792.81 ล้านบาท
นางจิตรลดา เลขาพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล. ไอร่า (AIRA) กล่าวว่า การลงทุนปี 2561 เน้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น ได้แก่ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มลิสซิ่ง รองลงมา คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการลงทุนที่ดีทั้งจากโครงการของภาครัฐและการลงทุนจากภาคเอกชนที่คาดมีความเชื่อมั่นดีขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มอาหารตามสัดส่วนส่งออก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 70 ของจีดีพี โดยคาดได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจคู่ค้าที่มีทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ มองว่าค่าโฆษณายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจ
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบัน ซื้อสุทธิ 607.33 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1,249.114 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 3,331.76 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 1,475.31 ล้านบาท
ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (BAY) เผยทิศทางค่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 32.23 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมูลค่า 400 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรมากถึง 37,000 ล้านบาทในช่วง 3 วันทำการ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับเงินยูโรและเงินเยน โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้.-สำนักข่าวไทย