กองทัพบก 22 ธ.ค.-ผบ.ทบ.ห่วงปี 61 ใช้โซเชียลปลุกระดม สร้างความเกลียดชัง ย้ำดำเนินการตามกฎหมาย ยันบ้านเมืองต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงสถานการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมืองในปี 2561 ที่เข้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป ว่า จะปีนี้หรือปีหน้า กรอบหลักคงไม่เปลี่ยนแปลง ตำรวจยังเป็นกำลังหลักในการดูแลความเรียบร้อย ที่เหลือเป็นการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ทั้งนี้สิ่งที่ตนห่วงใยไม่ใช่เรื่องการเคลื่อนไหวของบุคคล แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดีย ที่บางครั้งเป็นการสร้างความกดดัน ความเกลียดชังซึ่งกันและกัน ปลุกปั่น ยุยง ซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนฝ่ายการเมืองมีกรอบอยู่แล้วว่าสิ่งใดที่ทำได้ สิ่งใดที่ทำไม่ได้ ดังนั้นการใช้กำลัง หรือการดูแลภาพรวมยังเป็นไปตามปกติ ไม่มีอะไรน่ากังวล
“ความเคลื่อนไหวของกลุ่มโซเชียลมีเดีย ก็มีการติดตามตรวจสอบอยู่ หากพบการกระทำที่ผิด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่อยากขอร้องว่าไม่ควรสร้างความเกลียดชัง โดยเฉพาะการปลุกระดม อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียืนยันแล้วว่าการเลือกตั้งยังเป็นไปตามกำหนดของโรดแมป และแม้ว่าผมจะเกษียณอายุราชการในปี 2561 ทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามกรอบ แนวความคิดหรือหลักการของกองทัพบก หรือหลักการของ คสช.ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามคน ปัจจุบัน คสช.ก็ยืนหยัดอยู่ในเรื่องการดูแลด้านความมั่นคงเป็นหลัก ส่วนการบริหารงาน เป็นเรื่องของกระทรวง ทบวง กรม ที่ดำเนินการอยู่ ส่วนที่เหลือถ้ามีปัญหาเกี่ยวข้องในพื้นที่ ก็ใช้กำลังไปให้การสนับสนุนในบางเรื่อง” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า สำหรับชีวิตรับราชการช่วงสุดท้ายในปี 2561 นั้น ตนจะทำหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบกให้ดีที่สุด และให้สื่อประเมินเองว่าในช่วง 1 ปีกว่า ตนทำงานอย่างไร ตอนนี้ทุกอย่างเดินไปตามกรอบกองทัพบก และที่ทำทุกวันนี้ก็ทำตามแผนพัฒนากองทัพบก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคน การศึกษา เรื่องงานก็เหมือนกัน ไม่มีอะไรน่าห่วงใย การเป็นข้าราชการถึงเวลาไป ก็มีคนใหม่ขึ้นมาแทน และคนรุ่นหลังก็มีความสามารถ มีความเก่ง มีความเท่าทันเทคโนโลยีมากกว่าคนรุ่นตน
เมื่อถามว่า สำหรับมาตรการของ คสช.ในปี 2561 ยังเข้มข้นหรือไม่ เช่น การเชิญบุคคลมาพูดคุยทำความเข้าใจ หรือปรับทัศนคติ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ถ้ามีอะไร ก็มีการคุยกัน ไม่ใช่นอกกรอบ และในฐานะที่ดูแลความมั่นคง ก็พยายามตีกรอบให้อยู่ในจุดที่พอควร
“เหมือนที่โบราณว่าไว้ ตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้ลุกโชนแล้วค่อยไปดับ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนเข้าใจ ส่วนพรรคการเมืองก็เดินไปตามกรอบอยู่แล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางของกฎหมาย หากใครมีทัศนคติในทางลบ จะมีการพูดคุยทำความเข้าใจ การที่ทหารไปเยี่ยมบ้านไม่ใช่ว่าไม่ดี ก็ไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเท่านั้น ไม่ได้ไปคุกคาม เพราะบ้านเมืองต้องอยู่ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน คุยกันด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งวัตถุประสงค์เดียวกันคือต้องการให้บ้านเมืองสู่แนวทางการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นไม่ควรเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย
