ภูมิภาค 18 ธ.ค.- สาธารณสุขจังหวัดห่วงอากาศเย็นกระทบสุขภาพประชาชน แนะสวมเสื้อกันหนาวให้ร่างกายอบอุ่นตลอดเวลา นครพนมอุณหภูมิตัวเมืองลดต่ำสุดในรอบปีถึง 9 องศาฯ ขณะที่มหาสารคาม-ศรีสะเกษ ลมหนาวพัดแรง เฉลี่ย 11-14 องศาฯ ส่วนอุทัยธานีพื้นที่ใกล้เขา 20 องศาฯ
สภาพอากาศในจังหวัดนครพนมหนาวเย็นมาหลายวัน สถานีอุตุนิยมวิทยารายงานอุณหภูมิเช้านี้ (18 ธ.ค.) อำเภอเมืองวัดได้ 9 องศาเซลเซียส ถือว่าต่ำสุดรอบปี รองลงมา อ.ท่าอุเทน และ อ.ศรีสงคราม อีกทั้งกระแสลมยังกระโชกแรง ชาวบ้านต้องก่อไฟผิงเพิ่มความอบอุ่น ขณะเดียวกัน นพ.จรัญ จันทมัตตุการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เป็นห่วงสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอาจเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากภูมิต้านทาน ดังนั้น ควรสวมเสื้อให้หนาพอเหมาะ
ที่ จ.มหาสารคาม เป็นพื้นที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของภาคอีสาน อุณหภูมิเช้านี้อยู่ที่ 11 องศาฯ ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม ลดลงจากวานนี้ถึง 5 องศาฯ ชาวบ้านต้องสวมเสื้อกันหนาวและตามโรงเรียนให้นักเรียนออกกำลังกายตอนเช้า เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นก่อนเข้าเรียน ส่วนอุณหภูมิสูงสุดวันนี้อยู่ที่ 25 องศาฯ และอุณหภูมิยังมีแนวโน้มลดลดอีก
นพ.สุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า จากข้อมูลระบาดวิทยาล่าสุด ทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดมหาสารคามมียอดสะสมผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัด และปอดบวม เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็กเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย
เช่นเดียวกัน จ.ศรีสะเกษ โรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ หมู่ 5 ถนนดำรงสถิต ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ เป็นโรงเรียนชายแดนไทย-กัมพูชา สอนระดับชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ครูได้ให้นักเรียนออกกำลังกายตอนเช้าหน้าเสาธง ท่ามกลางแสงแดดอ่อน ๆ เนื่องจากขณะนี้อุณหภูมิในพื้นที่กันทรลักษณ์ลดลงอย่างรวดเร็วและลมพัดแรง เฉลี่ยที่ 12-14 องศาฯ
ส่วน จ.อุทัยธานี อากาศเช้านี้เย็นกว่าทุกวันที่ผ่านมา อุณหภูมิวัดได้ 20 – 22 องศาเซลเซียส ในพื้นที่อำเภอลานสัก บ้านไร่ และห้วยคต ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับป่ากันชนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ห้วยขาแข้ง นักเรียนโรงเรียนสวมใส่เสื้อกันหนาวหลากสีสัน เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นป้องกันเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ด้านสาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานีเตือนประชาชนดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ และจากการติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าอุณภูมิยังมีแนวโน้มลดลงได้อีก.-สำนักข่าวไทย