กาฐมาณฑุ 9 ธ.ค.- พันธมิตรฝ่ายซ้ายมีแนวโน้มจะชนะเลือกตั้งเนปาลเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากเนปาลมีรัฐบาลมาแล้ว 10 ชุดตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์มาเป็นระบอบสาธารณรัฐ
ผลคะแนนที่นับไปแล้วบางส่วนชี้ว่า พันธมิตรฝ่ายซ้ายที่เป็นการจับมือกันอย่างเหนียวแน่นระหว่างอดีตกลุ่มนิยมลัทธิเหมากับพรรคคอมมิวนิสต์ยูเอ็มแอลมีคะแนนนำใน 63 เขตเลือกตั้งจากทั้งหมด 80 เขต ชนะพันธมิตรที่รวมตัวกันอย่างหลวม ๆ นำโดยพรรคเนปาลคองเกรสของนายกรัฐมนตรีเชอร์ บาฮาดูร์ เดอบา ผลการเลือกตั้งจะบ่งชี้ได้ว่า จีนหรืออินเดียจะได้เปรียบในการหาทางมีอิทธิพลเหนือเนปาลที่ตั้งอยู่ระหว่างสองประเทศนี้ และมีไฟฟ้าพลังน้ำ รวมทั้งเป็นที่ตั้งของยอดเขาเอเวอเรสต์ เพราะพันธมิตรฝ่ายซ้ายถูกมองว่าสนับสนุนอินเดีย ขณะที่พรรคเนปาลคองเกรสถูกมองว่าใกล้ชิดจีน
การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่สภาร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบรัฐธรรมนูญแบบสาธารณรัฐเมื่อปี 2558 เป็นการเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขต 165 ที่นั่ง และ สส.แบบสัดส่วน 110 ที่นั่ง คาดว่าจะต้องใช้เวลาร่วม 10 วันกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการนับคะแนน เนปาลยุติสงครามกลางเมืองนาน 10 ปีกับกลุ่มนิยมลัทธิเหมาเมื่อปี 2549 และยกเลิกการปกครองระบอบกษัตริย์ยาวนาน 239 ปี ในอีกสองปีถัดมา จนถึงขณะนี้เปลี่ยนรัฐบาลมาแล้ว 10 ชุด ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองส่งผลให้เกิดการทุจริตแพร่หลาย เศรษฐกิจหยุดชะงัก และยังคงไม่ฟื้นตัวจากแผ่นดินไหวใหญ่ปี 2558 ที่คร่าชีวิตคนไปมากถึง 9,000 คน.-สำนักข่าวไทย