เชียงใหม่ 5 ธ.ค.-อากาศหนาวๆ แบบนี้จะพาไปสัมผัสความสวยงามของนาข้าวที่อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของยอดดอยที่ จ.เชียงใหม่ นอกจากความสวยงามแล้ว ยังเป็นต้นแบบของการทำนาข้าวแบบอินทรีย์ ตั้งแต่ทำเมล็ดพันธุ์ข้าวเอง ปลูกเอง ขายเอง ได้เงินปีละกว่า 1 ล้านบาท
นาข้าวที่ออกรวงสีทองอร่ามกว่า 70 ไร่ บริเวณเชิงดอยหลวงเชียงดาวที่สูงใหญ่ คือสวนบัวชมพู ณ จอมคีรี ในตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นาข้าวและสวนเกษตรที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจของพี่แหม่ม อดีตมนุษย์เงินเดือนในเมืองใหญ่ ที่ตัดสินใจกลับมาหาความสุขที่เรียบง่ายในบ้านเกิด
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่พี่แหม่มเริ่มพลิกฟื้นผืนนาและสวนเกษตรที่นี่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แม้จะพอมีพื้นฐานการเกษตรอยู่บ้าง แต่ต้องปรับความคิดใหม่ทั้งหมด หลังทำนาและการเกษตรโดยใช้สารเคมีอยู่ปีกว่า พบว่ายิ่งทำยิ่งแย่ ทั้งต้นทุนและสุขภาพ จึงศึกษาจากปราชญ์ด้านเกษตรอินทรีย์หลายท่าน และยึดศาสตร์พระราชาทำด้วยความพอเพียงเป็นหลัก เริ่มตั้งแต่ทำเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ปลูกเอง โดยตีข้าวแบบพื้นบ้านโบราณ เพื่อให้ได้เมล็ดที่สมบูรณ์ไม่ปนเปื้อน และยังอนุรักษ์ปรับปรุงข้าวกว่า 60 สายพันธุ์ ซึ่งปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมีหรือฮอร์โมน เกี่ยวข้าวด้วยมือ กลายเป็นข้าวกล้องอินทรีย์คุณภาพ 10 สายพันธุ์ ขายตรงทางออนไลน์ กิโลกรัมละ 80-100 บาท จนขายข้าวได้ปีละล้านกว่าบาท
ทุกวันนี้ที่สวนบัวชมพู ณ จอมคีรี ปลูกพืชผักผลไม้แบบอินทรีย์อีกหลายชนิด เพื่อเป็นรายได้เสริมจากข้าว และกลายเป็นเหมือนโรงเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ในพื้นที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์และการตลาด ขยายผลผลิตเกษตรอินทรีย์และแนวคิดชีวิตอย่างพอเพียงให้กว้างออกไปเรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังมีบ้านชาวนา บ้านพักหลังเล็กๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้สนใจด้านเกษตรที่มาเยือน ให้นอนสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด ท่ามกลางความสวยงามของท้องทุ่งและวิถีชีวิตการทำเกษตรที่เอื้ออาทรต่อธรรมชาติรอบตัว เป็นการต่อยอดสู่ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้อย่างงดงาม.-สำนักข่าวไทย
