เพชรบูรณ์ 2 ธ.ค.60- ศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ยกคำร้องขอประกันตัวพระครูกิตติพัชรคุณ หรือนายสมเกียรติ ขันทอง พระครูชื่อดังเมืองเพชรบูรณ์ ในคดีเงินทอนวัด ก่อนจับสึกจากสภาพสงฆ์ และส่งตัวขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
หลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. คุมตัว พระครูกิตติพัชรคุณ หรือ นายสมเกียรติ ขันทอง อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัดลาดแค และเจ้าคณะอำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังผัดแรก ในฐานความผิดสมคบกันฟอกเงิน ในคดีทุจริตโกงเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือเงินทอนวัด ซึ่งศาลมีคำสั่งให้รับตัวฝากขังตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ก่อนที่ทนายของพระครูกิตติพัชรคุณ จะมีการยื่นเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 4 แสนบาท
ภายหลังศาลพิจารณาตามคำร้องดังกล่าว มีคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา โดยให้เหตุผลท้ายคำสั่งว่า “เนื่องจากพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีตามคำร้อง ประกอบกับคำคัดค้านของผู้ร้องแล้วเชื่อว่าหากให้การปล่อยตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนี หรืออาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ในชั้นนี้ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวให้ยกคำร้องดังกล่าว” สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ทำการคุมตัวไปขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยมีเจ้าหน้าที่ส่วนคุ้มครองสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางมาเป็นตัวกลางในการสึกพระครูกิตติพัชรคุณ ให้พ้นจากสภาพสงฆ์ ซึ่ง พระครูกิตติพัชรคุณ ไม่ยอมเอ่ยวาจาลาสิกขา แต่ยินยอมที่จะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดขาว เพื่อให้เป็นไปตามกฎของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้คุมตัวไปยังเรือนจำตามคำสั่งศาล ขณะที่ด้านทนายความของพระครูกิตติพัชรคุณ ไม่เปิดเผยในรายละเอียดใดทั้งสิ้น
ด้าน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ ปปป. เปิดเผยพระครูกิตติพัชรคุณ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด 12 คดี ใน 12 วัด ความเสียหาย 28 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่านำไปซื้อรถยนต์โดยใช้ชื่อผู้อื่นครอบครอง มีการสั่งจ่ายเช็คจำนวนหลายฉบับ และยังมีความพยายามนำทรัพย์สินไปขายต่อให้บุคคลอื่นด้วย และเร็วๆ นี้ จะมีการเปิดเผยการปราบปรามการทุจริตเงินทอนวัด ลอตที่ 3
สำหรับพระครูกิตติพัชรคุณ ถูกตำรวจกองปราบปราม เข้าจับกุมภายในวัดลาดแค จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามหมายจับในข้อหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถูกนำตัวไปสอบสวนและฝากขังต่อศาลอาญาก่อนได้รับการประกันตัว และถูก ปปป.อายัดตัวนำไปสอบสวนเพิ่มเติม ตามหมายจับสมคบกันฟอกเงินในคดีทุจริตเงินทอนวัด.-สำนักข่าวไทย