รัฐสภา 8 พ.ย.-กรรมการปฏิรูปตำรวจเตรียมหารือ 2 รองนายกฯ ปมแยกงานสอบสวนออกจากสตช. เตรียมหาข้อสรุปประเด็นโยกย้ายแต่งตั้ง 10 พ.ย.นี้
นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรมการด้านสื่อสารกับสังคม คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เปิดเผยความคืบหน้าการปฏิรูปตำรวจ ว่า หลังจากที่คณะกรรมการมีข้อสรุปเบื้องต้นให้งานสืบสวนสอบสวนอยู่ด้วยกัน และสังกัดในสำนักงานตำรวจแห่ชาติ ล่าสุดมีแนวโน้มอาจต้องปรับเปลี่ยน เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีหนังสือมอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายประสานงานกับคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เพื่อให้ทบทวนแนวทางเรื่องการแยกภารกิจด้านงานสอบสวนให้ชัดเจน
“อาจให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ตำรวจ แต่มีความรู้ด้านนิติศาสตร์ และการพิจารณาอรรถคดีมาทำหน้าที่ในงานสอบสวนได้ โดยจะประสานนายวิษณุมาให้ข้อมูลและรายละเอียด และจะประชุมเรื่องดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะแยกงานสอบสวนออกมาเป็นอีกหนึ่งกองบัญชาการต่างหาก แต่ยืนยันว่างานสอบสวนกับงานปราบปรามจะต้องประสานและสอดคล้องกัน” นายมานิจ กล่าว
ส่วนเรื่องแนวทางการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ นายมานิจ กล่าวว่า คณะกรรมการเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติตำรวจเดิม เพื่อให้การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายมีความชัดเจน และสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้หลักเกณฑ์วิธีการแต่งตั้งโยกย้ายจะต้องพิจารณาโดยมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบที่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติงานของตำรวจ หรือกระบวนการแต่งตั้งจะต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถหลักอาวุโส เพื่อให้การทำงานเป็นไปโดยอิสระ โดยคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะแต่งตั้งได้เฉพาะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ จะพิจารณาในสายบัญชาการของตนเอง โดยแบ่งเป็น 12 สาย คือ กองบัญชาการภาค 1 -9 ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และจเรตำรวจ อย่างไรก็ตาม จะหารือให้ได้ข้อสรุปอีกครั้งภายในวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายนนี้ และจะส่งให้คณะอนุกรรมการไปรับฟังความคิดเห็นก่อนจะสรุปข้อเสนอทั้งหมดส่งให้นายกรัฐมนตรีภายในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ .- สำนักข่าวไทย
