กรุงเทพฯ 31 ต.ค.-ประธานปฎิรูปสื่อฯ รับคำร้องสื่อดีจิตอล ขอแก้ไขพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ระบุ แก้ปัญหาวิกฤติอาจต้องใช้ ม.44
ตัวแทน 5 สมาคมผู้ประกอบการโทรทัศน์ ประกอบด้วย ทีวีดาวเทียม เคเบิ้ล และโครงข่าย นำโดยนายนิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียมประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือต่อนายจิรชัย มูลทองโร่ย ประธานกรรมการปฎิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ วันนี้ (31 ต.ค.) เพื่อขอให้แก้ไขพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แยกประเภทคลื่นความถี่จากกิจการโทรทัศน์ที่ใช้คลื่นความถี่และไม่ใช้คลื่นความถี่ เป็นกิจการประเภทเรียกเก็บค่าสมาชิก หรือค่าใช้จ่ายจากผู้ชม หรือ PAY TV และกิจการประเภทที่ไม่เรียกเก็บค่าสมาชิกจากผู้ชม หรือ FREE TV เนื่องจากกิจการโทรทัศน์เป็นกิจการที่ให้ภาพและเสียง ที่เปลี่ยนรูปแบบเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการจะมีบริการให้เลือกเพียง 2 ประเภท คือ ประเภทจ่ายเงินและไม่ต้องจ่ายเงิน
นอกจากนี้ ขอให้ยกเลิกการจำกัดเวลาโฆษณา ยกเว้นช่วงเวลาที่ถ่ายทอดสด เนื่องจากไม่คุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งผู้ชมมักจะเปลี่ยนช่องช่วงที่มีโฆษณาไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ขอให้ทบทวนคุณสมบัติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ต้องมีผู้บริหารกิจการวงโครจรดาวเทียมและทบทวนคุณสมบัติของกิจการ กสทช. ที่ห้ามบริหารงานในระยะเวลา 1 ปี ก่อนได้รับการเสนอชื่อ เพราะผู้สมัครต้องมีประสบการณ์ด้านการบริหารกิจการประจายเสียง กิจการโทรทัศน์หรือกิจการโทรคมนาคมต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 ปี และผู้ที่มีความรู้ความสามารถมีจำนวนจำกัด ต่างก็ได้รับการเสนอเข้าไปเป็นผู้บริหารวิทยุโทรทัศน์และโรคมนาคมทั้งสิ้น
นายจิรชัย กล่าวภายหลังรับมอบหนังสือว่าจะรับข้อเสนอของ 5 สมาคมผู้ประกอบการโทรทัศน์ไว้ ทั้งนี้คณะกรรมการกำลังดำเนินการข้อมูล และพิจารณากฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรม และมาตราฐานวิชาชีพสื่อมวลชน และร่างพ.ร.บ.การจดแจ้งการพิมพ์ ส่วนกรณีที่ 5 สมาคมเสนอมาอยู่ในชั้นการพิจารณาของสนช. หากมีอะไรสามารถเสนอแนะเข้ามาได้
ส่วนปัญหาวิกฤติผลกระทบของทีวีดิจิตอล นายจิรชัย กล่าวว่า รัฐบาลรับทราบแล้ว หน่วยงานที่ดูแลโดยตรงคือกระทรวงดีอีและกสทช. เบื้องต้นได้เยียวยาด้วยการลดค่าใบอนุญาตประกอบการแล้ว การแก้กฎหมายบางเรื่องอาจต้องใช้กฎหมายพิเศษหรือมาตรา 44 ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อให้การแก้ปัญหาได้รวดเร็ว ทางคณะกรรมการชุดนี้จะรวบรวมความเห็นจากภารรัฐ สื่อ และประชาชนให้รัฐบาลประกอบการพิจารณา.- สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images//2017/10/1509430109119.jpg)