ทำเนียบฯ 15 มี.ค. – รัฐบาลจัดหนักสินค้าผิดกฎหมาย-ธุรกิจนอมินี เปิดศึกกวาดล้างกว่า 2.4 หมื่นคดี มูลค่าความเสียหายทะลุ 1.2 พันล้านบาท
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่จัดตั้งขึ้นตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านคณะอนุกรรมการ 2 ชุด คือ คณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SME ไทย และแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ และคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว โดยมีผลการดำเนินการจัดเก็บภาษี VAT ได้ 1,500 ล้านบาท จากสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท และดำเนินคดีสินค้าผิดกฎหมาย 24,626 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,257.24 ล้านบาท รวมถึงลดการนำเข้าสินค้าผ่าน e-Commerce ลง 8% เฉลี่ยเดือนละ 3,645 ล้านบาท และกวาดล้างธุรกิจนอมินี 851 ราย มูลค่าความเสียหาย 15,121 ล้านบาท
รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างจริงจัง เดินหน้าจัดตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมาย ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการหลักใน 2 ด้าน ได้แก่ การควบคุมสินค้านำเข้า และการตรวจสอบธุรกิจนอมินีของคนต่างด้าว โดยจะดำเนินการควบคุมสินค้านำเข้า เพิ่มการตรวจสอบสินค้าที่เข้าสู่ประเทศไทยจากเดิม 20% เป็น 30% ตรวจสอบแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น อย. และ มอก. และสินค้าคุณภาพต่ำส่วนสินค้าที่ไม่ได้ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่กระจายอยู่ในตลาดทั่วไป จะเพิ่มการตรวจสอบออฟไลน์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ส่วนการตรวจสอบธุรกิจนอมินีของชาวต่างชาติจะมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบเอกสารการถือหุ้นและรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในบางกรณีพบว่าธุรกิจของชาวต่างชาติอาจจดทะเบียนในชื่อของคนไทยทั้งหมด ส่งผลให้การตรวจสอบทำได้ยาก นอกจากนี้ยังพบว่าบางธุรกิจจดทะเบียนในจังหวัดหนึ่งแต่กลับดำเนินกิจการจริงในอีกจังหวัด ซึ่งต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ รวมถึงธุรกิจบางประเภทที่อยู่ในข่ายต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด ด้วยเหตุนี้คณะทำงานจึงต้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทั้งสินค้านำเข้าและธุรกิจนอมินี ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เพื่อให้การตรวจสอบครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูงสุด
“รัฐบาลยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวเป็นไปเพื่อปกป้องเศรษฐกิจไทยและผู้ประกอบการในประเทศให้แข่งขันอย่างเป็นธรรม และสร้างกลไกตลาดที่โปร่งใส โดยจะดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันสินค้าผิดกฎหมาย และธุรกิจนอมินีของต่างชาติที่สร้างกระทบต่อเศรษฐกิจของไทย
ผู้ต้องการร้องเรียนเรื่องนอมินีนิติบุคคล สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th หัวข้อ “รับเรื่องร้องเรียนปัญหานอมินี” หรือหากสงสัยว่าที่อยู่ของตนถูกมิจฉาชีพนำไปจดจัดตั้งเป็นนิติบุคคลโดยไม่ได้ยินยอม สามารถตรวจสอบด้วยตนเองผ่าน “ระบบตรวจสอบที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของนิติบุคคล” บนเว็บไซต์ดังกล่าว และแจ้งเบาะแสกรณีถูกนำที่อยู่ไปใช้จดทะเบียนเป็นที่ตั้งสำนักงานนิติบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมทางอีเมล checkaddr@dbd.go.th หรือสายด่วน 1570” นางสาวศศิกานต์ กล่าว.-315-สำนักข่าวไทย