กาญจนบุรี 25 ก.พ.-“ชัยชนะ” นำ กมธ.ตร. ติดตามนโยบาย “ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่กาญจนบุรี ย้ำทางออกของปัญหาต้องแก้แบบบูรณาการ
นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ตร.) พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ มุสิกอง สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการคณะกรรมาธิการตำรวจฯ นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการตำรวจฯ นำคณะ กมธ.ตร. เดินทางไปยังตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าของนโยบาย “การงดจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์”
การประชุมครั้งนี้มีตัวแทนจากหลายหน่วยงานร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือแนวทางแก้ไขปัญหา อาทิ นาย ทรัฑ เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัด พลตำรวจตรี พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกาญจนบุรี จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านพระเจดีย์สามองค์ สำนักงาน กสทช. ภาค 1 และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี
ภายหลังการประชุม นายชัยชนะ ปธ.กมธ.ตร เปิดเผยความคืบหน้าในการดำเนินนโยบายว่า มีข้อมูลยืนยันว่ากลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งดำเนินกิจการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองพญาตองซู ประเทศพม่า จำนวน 2 ออฟฟิศ และมีบุคลากรทั้งหมด 86 คน ได้รับผลกระทบจากมาตรการตัดไฟฟ้าและพลังงานของไทย ทำให้ออฟฟิศทั้งสองแห่งปิดตัวลง และกลุ่มบุคลากรบางส่วนเริ่มถอยร่นกลับไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศพม่า
นายชัยชนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดกาญจนบุรีมีช่องทางเข้า-ออกชายแดนทั้งหมด 44 ช่องทาง โดยมีจุดตรวจความมั่นคง 11 ด่าน ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศกว่า 2,000 ราย โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 728 ราย เนื่องจากเป็นช่วงที่เมียนมามีการเกณฑ์ทหาร ส่งผลให้แรงงานจำนวนมากหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย
“มาตรการตัดไฟฟ้าและพลังงานที่รัฐบาลดำเนินการ นอกจากจะช่วยลดปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ ที่ยินดีช่วยผลักดันกลุ่มทุนจีนสีเทาออกจากบริเวณชายแดน เพราะพวกเขาได้รับผลกระทบจากการไม่มีไฟฟ้าใช้ และต้องการให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว” นายชัยชนะกล่าว
นายชัยชนะ ย้ำด้วยว่า การแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องใช้ความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคง การสื่อสาร และสาธารณูปโภค โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่มีความซับซ้อน พร้อมระบุว่า กมธ.ตร. จะเร่งติดตามความคืบหน้าของมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวลจากภัยอาชญากรรม.-312.-สำนักข่าวไทย