รัฐบาลดันไทยสู่ฮับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-กิจกรรม

ทำเนียบ 5 ก.พ.-“ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-กิจกรรม” ของไทยคึกคัก รัฐบาลดันไทยสู่ฮับ ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว มั่นใจปีนี้ ยอดเที่ยวไทยทะลุเกือบ40ล.คนแน่หลังปี67แตะเกือบ36ล.คน

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจบริการและผู้ประกอบการไทยในทุกอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ พร้อมเดินหน้าผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยในด้านต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าแก่การมาเยือน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว ทั้งนี้ จากข้อมูลปัจจุบัน พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในประเทศในภูมิภาคอาเซียนและประเทศใกล้เคียง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและระยะเวลาพักเฉลี่ยไม่สูงนัก หากไทยสามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ได้ จะช่วยเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น


ซึ่งภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) อาทิ สปา และการฟื้นฟูสุขภาพเฉพาะทาง จะมีมูลค่าสูงกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป จึงมีแนวโน้มที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาในไทยได้มากขึ้น รวมถึงกลุ่มที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม (Event Tourism) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน อาทิ การแสดงดนตรี งานเทศกาล และการแข่งขันกีฬา โดยกิจกรรมเหล่านี้ ไม่เพียงแต่สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับนักท่องเที่ยว แต่ยังกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อการกระจายรายได้และขยายการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับชุมชนอย่างมีนัยสำคัญ

รองโฆษกกล่าวต่อไปว่า ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าในปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวม 35.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.27% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สร้างรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% โดย5 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุดในปี 2567 ได้แก่ 1. จีน 6,733,162 คน 2. มาเลเซีย 4,952,078 คน 3. อินเดีย 2,129,149 คน 4. เกาหลีใต้ 1,868,945 คน และ5. รัสเซีย 1,745,327 คน


“รัฐบาลมุ่งมั่นในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเดินหน้าสร้างมาตรฐานระดับสากล ทั้งในด้านคุณภาพบริการ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยว สร้างอนาคตที่มั่นคงและแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในระยะยาว“ นางสาวศศิกานต์ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้