นครสวรรค์ 31 ม.ค. – ไปดูการ “เชิดเสือ” ของชาวไหหลำในปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ แม้จะคล้ายกับการเชิดสิงโต แต่มีตำนานต่างกัน ตัวสีชมพูนี้ นักแสดงเป็นเด็กๆ ชาวปากน้ำโพ ที่สำคัญคนเชิดเป็นเด็กผู้หญิงด้วย
การเชิดเสือ มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ณ หมู่บ้านหนึ่งของอำเภอบุ้นเชียง ในหมู่เกาะไหหลำ มีศาลเจ้าซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปจำลองของ “เทพเจ้าบ้วนเถ่ากง” ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวบ้านบริเวณนั้น และที่บริเวณใกล้กับศาลเจ้าฯ เป็นที่อยู่ของเสือตัวหนึ่ง ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ “เทพเจ้าบ้วนเถ่ากง” เลี้ยงไว้ ซึ่งโดยปกติเสือตัวนี้ไม่เคยทำอันตรายแก่ผู้ใด จวบจนวันหนึ่งมีเด็กชายซึ่งเป็นลูกชายของหญิงในหมู่บ้าน ด้วยความซุกซนจึงได้แหย่เสือตัวนี้ ซึ่งกำลังหลับอยู่ เสือตัวนี้จึงตื่นขึ้นมาด้วยความโกรธ คำรามลั่นและมุ่งตรงเข้ามาทำร้ายเด็ก และได้กลืนเด็กลงท้องไป เรื่องรู้ถึงแม่ของเด็กก็ตกใจ จึงได้ออกตามผู้กล้าทั้งหลายในหมู่บ้านให้มาช่วยเหลือลูกของตน แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ แม่ของเด็กเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ความล่วงรู้ถึง “เทพเจ้าบ้วนเถ่ากง” ด้วยทิพย์ญาณที่เสือได้กลืนเด็กลงท้อง จึงบัญชาให้พระภูมิเจ้าที่ 2 องค์ มาช่วยชีวิตเด็ก พระภูมิเจ้าที่ทั้ง 2 องค์ จึงได้ปรากฏกายมาสยบเสือ และช่วยให้เสือยอมคายเด็กออกมาโดยปลอดภัย
ดังนั้น ชาวจีนไหหลำ จึงได้นำตำนานเรื่องนี้มาเป็นการแสดงในตอนหนึ่งของการเชิดเสือ และเมื่อชาวจีนไหหลำได้อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ที่ชุมชนปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ จึงได้นำเอาวัฒนธรรมประเพณีการเชิดเสือ เข้ามาเผยแพร่ให้ลูกหลานของชนรุ่นหลังได้สืบทอดวัฒนธรรมการเชิดเสือจนแพร่หลาย และยังได้อัญเชิญ “เทพเจ้าบ้วนเถ่ากง” มาประดิษฐานเพื่อสักการบูชา ซึ่งปัจจุบันองค์จำลองของ “เทพเจ้าบ้วนเถ่ากง” หรือ “เจ้าพ่อเทพารักษ์” ประดิษฐานรวมกับเจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม และเจ้าแม่สวรรค์ ณ ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์ เจ้าแม่ทับทิมแควใหญ่ ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดปากน้ำโพ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา. – สำนักข่าวไทย