บึงกาฬ 20 ธ.ค. – ตำรวจขยายผลหาหลักฐานคดีชายยิงเครือญาติและชาวบ้าน เสียชีวิต 2 ราย พบกระสุนปืนในตัวผู้ก่อเหตุจำนวนมาก ขณะที่สอบปากคำ ครอบครัวชายคลั่งพบมีอาการผิดปกติทางจิต ไม่ยอมไปตรวจรักษา
คืบหน้าเหตุชายคลั่ง บุกไปบ้านญาติ ในพื้นที่หมู่บ้านโพนแก้ว ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ก่อนใช้อาวุธปืนพกสั้น ลูกโม่ ขนาด .38 ยิงนาย ประกอบ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาและลูกของอา บาดเจ็บ ก่อนเดินออกจากบ้านไปยิงชาวบ้านที่เดินอยู่บริเวณหน้าบ้าน เสียชีวิตอีก 2 ราย จากนั้นได้หลบหนี ไปยิงตัวตาย ในบ้านของตัวเอง อยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (19 ธ.ค.) ส่วนปมเหตุ ตำรวจคาดมูลเหตุจูงใจ เกิดจากความขัดแย้งภายใน เครือญาติ โดยผู้ก่อเหตุเคยต้องโทษจำคุกเพราะฆ่าลูกชายคนโตของอและเคยขู่ว่าหลังพ้นโทษจะออกมาล้างแค้น จึงมาก่อเหตุยิงอา และลูกชายอีก 1 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับบาดเจ็บ ก่อนยิงชาวบ้านที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง อีก 2 คนเสียชีวิต
ล่าสุดตำรวจ ขยายผลหาหลักฐานการก่อเหตุเพิ่มเติม เบื้องต้นพบปืนสั้นกึ่งอัติโนมัติขนาด 9 มิลลิเมตร อีก 1 กระบอก อยู่ในลำตัว กระสุนขนาด .38 จำนวน 29 นัด อยู่ในกระเป๋าเสื้อฝั่งขวาด้านล่าง กระสุนขนาด.38 อยู่ในกระเป๋าเสื้อฝั่งขวา (หน้าอกบน) 24 นัด กระสุนขนาด 9 มม.อยู่ในกระเป๋าเสื้อฝั่งซ้าย (ด้านล่าง) จำนวน 36 นัด นอกจากนี้ยังมีมีดพกสั้นแบบพับ 1 เล่ม ซึ่งของกลางทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และนำไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นปืนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
สอบปากคำพ่อ และน้องสาวผู้ก่อเหตุ ค้นหาหลักฐาน ในบ้านผู้ก่อเหตุ พบอาวุธปืน .38 และปืนดัดแปลง ไม่มีทะเบียนพร้อมเครื่องกระสุน อีก 8 นัด ทั้งนี้ พ่อผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่าลูกชายโทรมาเมื่อ 14 ธ.ค. โดยพูดคุยกัน2 นาที บอกว่าถึงเวลาแล้พ่อก็เข้าใจได้ว่าลูกชายจะกลับมาเพื่อทำร้ายญาติ และได้ตักเตือนมาตลอด โดยในวันเกิดเหตุไม่ได้อยู่บ้าน มีเพียงญาติโทรศัพท์ไปบอกว่าลูกชายมาถึงแล้ว โดยเหมาแท็กซี่ 6,000 บาท โดยไม่คาดคิดว่า จะเตรียมการนำอาวุธมา และเคยจะพาไปหาหมอ เพราะรู้สึกว่าลูกผิดปกติ แต่ลูกก็ไม่ไป บังคับไม่ได้บอกก็โมโห ยังเคยจะทำร้ายจากออกจากคุกก็มาบวช ไม่กลับมาบ้าน มีแต่โทรศัพท์มาพูดว่าจะกลับมาเอาคืน พอถามว่าจะเอาคืนใครก็ไม่ตอบ บอกเพียงถึงเวลาแล้ว การกลับมาครั้งนี้ ของผู้ก่อเหตุเชื่อได้ว่ามีความตั้งใจกลับมาก่อเหตุ โดยในกรtเป๋าเดินทางยังพบจีวรพระสงฆ์ คาดว่ายังไม่ได้ลาสิกขา นอกจากนี้ ตำรวจยังพบจดหมาย ที่คาดว่าเป็นลายมือ ผู้ก่อเหตุ ที่อ้างว่าถูกแอบติดตั้งเครื่อง V2K ในการติดตามดูความเคลื่อนไหว โดยในจดหมายยังมีการระบุรายชื่อ บุคคลอื่นๆ หลังถูกดำเนินคดีฆ่าผู้อื่น เมื่อ 7 ปีก่อน
ที่ รพ.บึงกาฬ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งขณะนี้ปลอดภัยทั้ง 3 รายแล้ว มี 1 ราย ถูกยิงเข้าที่ขากระสุนไปโดนกล้ามเนื้อใช้เวลา2–3 วันจะออกจากโรงพยาบาลได้ ส่วนอีก 2 รายกระสุนเข้าไปที่กระดูก ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์เฝ้าดูอาการ และผ่าตัด คงต้องใช้เวลารักษาอีกพอสมควร และหลังเกิดเหตุ ได้ ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งนี้ญาติผู้ก่อเหตุ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะมีอาการทางจิต หูแว่วว่าจะมีคนมาทำร้าย แต่อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบไม่พบประวัติในการรักษาอาการป่วยทางจิตหรือยาเสพติด ขณะที่การป้องกันระยะยาว คงต้องมีการคุยกัน ในแต่ละหมู่บ้าน โดยจะต้องมีการแจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือท้องถิ่นด้วยว่า หากชุมชนใด มีบุคคลที่มีอาการ ป่วย ทางจิต ให้แจ้งพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุร้าย และจะได้นำตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
ขณะที่วัดบ้านโพนแก้ว ปลัดจังหวัด พร้อมด้วยยุติธรรมจังหวัด นำพวงหรีด ผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 ราย พร้อมจัดเตรียมสถาน ที่พิธีฌาปนกิจศพ ในบ่ายวันนี้พร้อมกันทั้ง 2 ราย โดยจะตั้งเป็นกองฟอน จำนวน 2 กอง ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย
ส่วนศพผู้ก่อเหตุ ญาติได้ตกลงกันมอบร่างให้กับมูลนิธิสว่างเมธาธรรมจังหวัดอุดรธานี นำไปเก็บไว้ที่สุสานต่อไป โดยไม่มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพเพื่อความสบายใจของญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย.-สำนักข่าวไทย