ปปง.18 ธ.ค. – ผู้เสียหาย “ดิไอคอน” ขอบคุณ ปปง.หลังมีมติขอศาลเฉลี่ยทรัพย์คืน ยันถูกทำให้เข้าใจผิดเสียค่ายิงแอด และถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างภาพให้บริษัทดิไอคอน
นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย โฆษกประจำสำนักงาน ปปง. รับเรื่องจากตัวแทนผู้เสียหายบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ประมาณ 100 คน ที่ รวมตัวมาขอบคุณ ปปง.ที่มีมติให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 103 รายการ มูลค่าประมาณ 286 ล้านบาท เพื่อชดใช้คืนแก่ผู้เสียหาย
นายวิทยา กล่าวว่า ปปง. ดำเนินการเฉพาะตัวทรัพย์สินของบริษัท ดิไอคอน ในคดีมูลฐานการฟอกเงิน ตามกระบวนการจะแยกกับคดีอาญา เมื่อคณะกรรมการธุรกรรมประชุมพิจารณาจะเสนอเหตุผลว่าทรัพย์สินดังกล่าวมาจากการกระทำความผิด แม้ศาลจะยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ลงโทษบุคคลใดก็ตาม แต่กฎหมาย ปปง. ดำเนินการได้ โดยแยกจากคดีอาญา สำหรับทรัพย์สินเป็นการยึดและอายัดชั่วคราว เพื่อให้ผู้เสียหายยื่นคำร้อง ภายใน 90 วัน โดยจะครบกำหนดวันที่ 17 ก.พ.68 ขณะนี้มีผู้เสียหายมายื่นประมาณ 500 ราย ถือว่ายังน้อย จากนั้นสำนักงาน ปปง. จะส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอต่อศาลแพ่ง และสุดท้ายศาลจะเป็นผู้พิจารณาให้มีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนให้กับผู้เสียหายตามสัดส่วนความเสียหาย หากไม่มีผู้ใดอุทธรณ์ก็สามารถนำทรัพย์คืนผู้เสียหายได้ทันที แทนการสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
นายวิทยา ยังกล่าวถึงกรณีตัวแทนบริษัทอ้างว่ามีการเปิดบริษัทถูกต้อง ปปง.จะดูพฤติการณ์ตามคดีความผิดมูลฐาน คดีฉ้อโกงประชาชนเป็นหลัก โดย ปปง.ได้ยึดอายัดทรัพย์เองส่วนใหญ่เป็นเงินในบัญชีเงินฝาก 286 ล้านบาท และอยู่ระหว่างติดตามทรัพย์เพิ่มเติม แต่บางส่วนได้มีมติให้เพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์สิน จำนวน 40 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 29 ล้านบาท เพราะชี้แจงได้ว่าทรัพย์ได้มาก่อนการกระทำความผิด โดยเจ้าของทรัพย์สามารถชี้แจงต่อชั้นศาลได้อีกครั้งเพื่อพิสูจน์การได้มาของทรัพย์
ส่วนทรัพย์สินที่ยึดมาได้จากตำรวจสอบสวนกลาง เช่น รถยนต์หรูหลายคัน และที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยึดอายัด เช่น ที่ดินหรือนาฬิกาแบรนด์เนม อยู่ระหว่างประสานส่งมอบทรัพย์สิน อีกทั้ง ในส่วนแม่ทีมหรือแม่ข่ายในแถว 2-3 นั้น กฎหมายฟอกเงินสามารถตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ได้เพราะเงินบัญชีที่ยึดได้บางส่วนก็มาจากแม่ทีม อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินที่ยึดอายัดมาได้จากกระทำความผิด หากเป็นทรัพย์เก็บไว้ก็เป็นภาระต้องมีการขายทอดตลาดเป็นเงินสด ส่วนทรัพย์ไม่เป็นภาระ ต้องให้ศาลตัดสินถึงที่สุด เฉลี่ยคืนผู้เสียหาย ในอดีตการยึดอายัดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงินจะต้องตกเป็นของแผ่นดิน แต่หลังปี 58 มีการแก้ไขกฎหมายฉบับใหม่ ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ถ้ามีผู้เสียหายในคดีมูลฐานการฟอกเงิน จะต้องมีการร้องขอต่อศาลให้เฉลี่ยคืนทรัพย์แก่ผู้เสียหาย
ทั้งนี้ กลุ่มผู้เสียหายได้มอบกระเช้าขอบคุณ ปปง. พร้อมชี้แจงถึงกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นนอกจากการเปิดบิล ถึงจะพิสูจน์ทราบ 100% ไม่ได้ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้น มีนัยสำคัญอยู่ 2 ข้อ 1. มีการเสียค่ายิงแอดโฆษณา โดยไม่รู้ว่าคือการวางระบบ ให้ผู้เสียหายใช้เงินของตัวเองไปนำคนเข้ามาเป็นดีลเลอร์ให้กับบริษัท จนกลายเป็นมีผู้เสียหายจำนวนมากขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนแอบแฝงที่บริษัทไม่ชี้แจงจำนวนเงินและนัยที่แท้จริงของธุรกิจให้ทราบก่อนเปิดบิล และ 2.ผู้เสียหายจ่ายเงินเข้างานกิจกรรมของบริษัทโดยไม่รู้ว่าป็นเครื่องมือในการสร้างภาพที่ยิ่งใหญ่ให้กับบริษัททำให้มีคนหลงเชื่อมากขึ้น.-119-สำนักข่าวไทย