พิษณุโลก 11 ธ.ค. – ตำรวจทางหลวงไล่ล่าระทึก คนร้ายขโมยรถยนต์ขับหนีข้ามจังหวัดกว่า 50 กม. ก่อนเสียหลักพุ่งชนเสาไฟเกาะกลางถนน แล้วยังพยายามสู้ใช้มีดแทงเจ้าหน้าที่ ก่อนจะสิ้นฤทธิ์โดนจับได้ในที่สุด
ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่านายกรกฎ อายุ 31 ปี ซึ่งก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์มิซซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ ขับหนีมาจากพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ไล่ล่ากันมากว่า 50 กิโลเมตร ก่อนที่รถของคนร้ายจะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟบริเวณเกาะกลางถนน และลงมาจากรถพร้อมอาวุธมีด พยายามจะชิงรถเจ้าหน้าที่เพื่อขับรถหลบหนีต่อ ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
โดยก่อนเหตุการณ์จะมาถึงจุดนี้ ตำรวจทางหลวงพิษณุโลกได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์รถยนต์ยี่ห้อมิชซูบิชิ ปาเจโร่ ในเขต จ.อุตรดิตถ์ จึงวิทยุวางแผนสกัดจับ และสั่งการให้หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงบ้านป่า จ.พิษณุโลก สกัดจับบริเวณถนนหลวงหมายเลข 11 (ขาเข้า) หน้าหน่วยบริการฯ แต่เมื่อรถคนร้ายมาถึงจุดดังกล่าว ได้ขับฝ่าจุดสกัด เจ้าหน้าที่ที่ประจำจุดอยู่ จึงขับรถติดตามมา พร้อมประสานรถพ่วงจอดปิดเส้นทางบริเวณ แยกวัดสะกัดน้ำมัน ถ.เลี่ยงเมือง อ.เมืองพิษณุโลก
เมื่อคนร้ายขับรถมาถึง เห็นรถพ่วงจอดขวางถนน จึงขับพุ่งชนตำรวจอีกนายที่รอสกัดอยู่ แต่เจ้าหน้าที่กระโดดหลบได้ทัน จนรถคนร้ายเสียหลักพุ่งชนเสาไฟเกาะกลางถนน และคนร้ายก็ลงจากรถมาพร้อมอาวุธมีด ตามคลิปที่เราได้ดูไป โดยพยายามจะใช้มีดแทงตำรวจ เพื่อชิงรถขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงไปที่มือของคนร้าย จนควบคุมตัวได้ นำตัวส่งรักษาที่ รพ.พุทธชินราช ก่อนส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ในข้อหาต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานฯ และข้อหาพยายามฆ่า
สำหรับเหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ ด.ต.ประทีป มีอุดร ถูกปลายมีดบริเวณหน้าท้องด้านซ้าย เป็นรอยถลอกเล็กน้อย ส่วน จ.ส.ต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ บาดเจ็บที่ข้อเท้าจากการกระโดดหลบรถคนร้ายที่ขับพุ่งชน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้ดูแลรักษาพยาบาลเป็นอย่างดี พร้อมชมเชยในการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี ไล่ล่าคนร้ายกว่า 50 กิโลเมตร ปฏิบัติตามแผน “ก้าวสกัดจับ” จนจับกุมคนร้ายและหยุดความเสียหายได้ ไม่เกิดอันตรายกับประชาชน.-สำนักข่าวไทย