ทำเนียบ 3 ธ.ค.- “จิรายุ” เผยนายกฯ สั่งการ ครม.ระดมความร่วมมือของรัฐ-เอกชน เร่งสำรวจความเสียหายน้ำท่วมใต้ เพื่อฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว พร้อมสั่งปรับแผนเร่งด่วน 4 เรื่อง ดึงการลงทุนต่างประเทศ รับมือนโยบาย “ทรัมป์”
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องน้ำท่วมภาคใต้ ว่า แม้สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้จะเริ่มคลี่คลาย แต่ยังไม่กลับเข้าสู่สภาวะปกติในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ยังมีปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้าและประปา ประกอบกับศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ประกาศแจ้งเตือนว่าตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ เพื่อให้การบริหารสถานการณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขอให้คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ที่มีท่านรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานรับดำเนินงานต่อเนื่องจาก ศปช. ต่อไป โดยให้ท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม เป็นที่ปรึกษาของประธาน เร่งปฏิบัติหน้าที่และใช้กลไกตามกฎหมายในการบริหาร ระดมความร่วมมือของรัฐและเอกชนเร่งแก้ไขสถานการณ์ภัยพิบัติโดยเร็ว ตลอดจนขอให้เร่งสำรวจ และรายงานความเสียหาย รวมทั้งแนวทางการฟื้นฟูให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการเรื่องการค้าการลงทุน ว่า จากการที่ได้พบกับนักลงทุน ทั้งในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ และการพบกับสมาคมการค้าและภาคธุรกิจต่าง ๆ ทำให้เห็นถึงโอกาสของประเทศไทยที่จะดึงดูดนักลงทุน ภายใต้สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ (GEOPOLITICS) โดยเฉพาะนโยบายทางการค้าของประธานาธิบดี ทรัมป์ ที่เร่งให้บริษัทจำเป็นต้องเร่งปรับตัวและปรับแผนในการลงทุนในภูมิภาค ASEAN
ขณะเดียวกัน ก็ได้รับฟังถึงความท้าทายและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข จึงได้ฝากเรื่องที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน 4 เรื่อง เพื่อช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ คือเรื่องการพัฒนาพื้นที่สำหรับรองรับการลงทุน โดยเฉพาะการจัดสรรและพัฒนาที่ดินให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ , ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยบริษัทรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายต้องการพลังงานหมุนเวียนสะอาด (Direct PPA) ,มาตรการรองรับ Global Minimum Tax ซึ่งจำเป็นต้องออกกฎหมายให้ทันการบังคับใช้ในปี 2568 ทั้งในส่วนของการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำและมาตรการด้านสิทธิประโยชน์ และการแก้ไขกฎระเบียบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจหรือ Ease of Doing Business เช่น การผ่อนปรนเงื่อนไขการจ้างงานชาวต่างชาติของกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มบุคลากรทักษะสูง โดยมอบหมายให้ BOI จัดทำรายละเอียดมาตรการ ผ่านรองนายกฯ พิชัย เพื่อมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยัฃได้สั่งการเรื่องการปราบปรามยางเถื่อนผิดกฎหมาย เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีมาตรการโครงการสินเชื่อชะลอการขายยาง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางในตลาด อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาการลักลอบนำยางเถื่อนเข้ามาจากต่างประเทศตามแนวชายแดน ทำให้ราคายางในประเทศต่ำลง จึงสั่งการให้กระทรวงกลาโหม หน่วยงานความมั่นคง เร่งปราบปรามปัญหาการลักลอบการนำเข้ายางเถื่อนจากต่างประเทศอย่างเร่งด่วน ตลอดจนขอให้กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง มีมาตรการที่เข้มงวดในพิธีศุลกากรตามแนวชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบยางเถื่อนเข้า และออกจากประเทศ โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร.-315 -สำนักข่าวไทย