กทม.27 พ.ย.- “อนุทิน” มอบผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เร่งดูแลครอบครัว ชรบ. และผู้เสียชีวิตจากเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงประชาชน พร้อมเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็วที่สุด
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงประชาชนเสียชีวิต จำนวน 3 ราย ในท้องที่บ้านตะเคียนทอง หมู่ 2 ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้มอบหมายให้ นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ดูแลในเรื่องของการเยียวยาครอบครัว ชรบ. ที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงครอบครัวของประชาชนผู้เสียชีวิตตามกฎหมาย พร้อมนำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษปกครองสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็วที่สุด และจัดกำลังสมาชิก อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำชุด ชรบ. ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด บนเส้นทางที่คาดว่าผู้ก่อเหตุจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี รวมถึงออกลาดตระเวนคุ้มครอง พื้นที่สำคัญ เฝ้าระวังความปลอดภัยสถานศึกษา วัด ปั๊มน้ำมันทุกแห่งในพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุที่อาจกระทบต่อประชาชนรายอื่น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รักษาการผู้ว่าราชการ จ.หนองบัวลำภู ได้มอบหมายให้ที่ทำการปกครอง จ.หนองบัวลำภู ลงพื้นที่เยียวยาครอบครัว ชรบ. ที่เสียชีวิต โดยมูลนิธิผู้รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน จ.หนองบัวลำภู ได้มอบเงินค่าจัดการศพในเบื้องต้น นอกจากนี้เหล่ากาชาด จ.หนองบัวลำภู ได้ร่วมกับ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.หนองบัวลำภู ลงพื้นที่ไปเยียวยาดูแลขวัญกำลังใจของครอบครัวประชาชนผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ในช่วงบ่ายวันนี้
ในด้านการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ ในขั้นต้น กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบชื่อผู้ก่อเหตุในฐานข้อมูลอาวุธปืนระบบ i service แล้ว ไม่พบว่าเป็นผู้มีการครอบครองอาวุธปืน ซึ่งอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนขนาด 9 มม. และยานพาหนะเป็นมอเตอร์ไซค์สีน้ำเงิน 1 คัน และจากการเรียกผู้เกี่ยวข้องรวมถึงภรรยาผู้ก่อเหตุมาสอบสวน ได้ทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีการโทรศัพท์หาภรรยาว่าจะขอมอบตัว แต่หลังจากนั้นยังไม่สามารถติดต่อได้ ชุดปฏิบัติการพิเศษปกครอง จ.หนองบัวลำภู จึงยังคงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายโดยเร็วที่สุด และหากประชาชนพบเห็นบุคคลและรถต้องสงสัย ขอให้โทรสายด่วน 191 ทันที .319.-สำนักข่าวไทย