นายกฯ ดันไทยศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการขนส่งในภูมิภาค

กรุงเทพฯ 3 ส.ค.-นายกฯ ส่งเสริมศักยภาพบุคลากรภาคอุตสาหกรรมและภาคการขนส่งไทย พร้อมยกระดับความสามารถผู้ประกอบการภาคการขนส่ง ผลักดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและนวัตกรรม และศูนย์กลางขนส่งในภูมิภาค

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาคอุตสาหกรรมตามมาตรฐานสากลในฐานะกำลังสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งรัฐบาลโดย กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขานรับนโยบาย จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถ และประสิทธิภาพของบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมและภาคการขนส่งให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานสากล สามารถผลักดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและนวัตกรรม และศูนย์กลางขนส่งในภูมิภาค


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของนักศึกษาให้มีทักษะและความรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมการพัฒนาศักยภาพในหลากหลายมิติ อาทิ การฝึกงานและสหกิจศึกษาในนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. การสร้างเครือข่ายร่วมกับผู้ประกอบอุตสาหกรรม โดย กนอ.มีเครือข่ายผู้ประกอบอุตสาหกรรมใน 70 นิคมอุตสาหกรรม กระจายอยู่ใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ และการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรม สามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ รัฐบาลโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้วางแนวทางในการสร้างนักโลจิสติกส์อุตสาหกรรมมืออาชีพ และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ จำนวน 310 กิจการ ใน 5 ภูมิภาค ด้วยการฝึกอบรมให้บุคลากรด้านการขนส่งให้มีความรู้และความสามารถตามมาตรฐานสากล สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมทางโลจิสติกส์อย่างปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงเพิ่มโอกาสผู้ประกอบการไทยให้เชื่อมโยงกับห่วงโซ่มูลค่าระดับภูมิภาคและระดับโลก และช่วยให้สามารถลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ได้ โดย DIPROM คาดการณ์ว่าในปี 2568 จะดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาสถานประกอบการได้เป็นจำนวน 350 กิจการ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ 2,100 ล้านบาท


“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรไทยให้มีศักยภาพ มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ เป็นไปตามความต้องการของตลาดแรงงาน เท่าทันการพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมและนวัตกรรมอนาคต เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย และโลจิสติกส์ให้มีความแข็งแกร่ง ทัดเทียมกับนานาชาติ สามารถส่งเสริมการแข่งขันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม นวัตกรรม และศูนย์กลางขนส่งในภูมิภาคตามวิสัยทัศน์ Ignite Thailand ของนายกรัฐมนตรี” นายชัย กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ