เสวนา “สานต่อความเท่าเทียมทางเพศจากพัทยาสู่สากล“

ชลบุรี 21 พ.ค.- เวทีเสวนา “สานต่อความเท่าเทียมทางเพศ จากพัทยาสู่สากล“ ระดมความเห็นวางกลยุทธ์สร้างความเท่าเทียมในสังคม ผลักดันพัทยาเป็นจุดหมายนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ ตั้งเป้าการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
 
บรรยากาศเวทีเสวนา ”สานต่อความเท่าเทียมทางเพศจากพัทยาสู่สากล“ เชิญผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหอการค้า สมาคมโรงแรมไทย และผู้ประกอบการภาคเอกชนในพื้นที่ จ.ชลบุรี ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นในการผลักดันพื้นที่พัทยาเป็นหนึ่งในเป้าหมายการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะเดือนมิถุนายนที่ทั่วโลกเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) ซึ่งการท่องเที่ยวคือหนึ่งในเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจไทย และพร้อมที่จะสร้างความเท่าเทียมในสังคมเทียบเท่าเวทีโลก


นายธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล ประธานหอการค้าชลบุรี กล่าวว่า เศรษฐกิจในพื้นที่ชลบุรียังต้องจับตาเรื่องกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งนี้หอการค้าได้วางกลยุทธ์เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวในพื้นที่ชลบุรีด้วยการยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนพร้อมนำนวัตกรรมมาช่วยในการจัดระบบท่องเที่ยว เช่น รวมการทำทัวร์ เส้นทางท่องเที่ยวเเละที่พักได้ในครั้งเดียว พร้อมอบรมบุคลากรให้มีความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศ ขณะเดียวกันภาคเอกชนพร้อมให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยเฉพาะเดือนมิถุนายนที่ทั่วโลกได้มีการเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) โดยจังหวัดชลบุรีมีหลายพื้นที่ซึ่งเป็นหมุดหมายสำหรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ  ดังนั้นจึงเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตตามที่หอการค้าคาดการณ์ไว้ที่ 2.7%
 
ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก (World Travel & Tourism Council – WTTC) เปิดเผยข้อมูลกลุ่ม LGBTQ+ ที่ชื่นชอบการเดินทางมีสัดส่วนมากกว่า 10% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกและคิดเป็น 16% ของค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด หรือมากกว่า 195 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี และมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าการใช้จ่ายเพื่อท่องเที่ยวของกลุ่ม LGBTQ+ จะสูงถึง 568.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ  19.70 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573

นางสาวมรกต กุลดิลก นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า เมืองพัทยาพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และเดินทางท่องเที่ยวบ่อยซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารในเมืองพัทยาให้เติบโตขึ้นได้ และด้วยเสน่ห์ของนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ หากมีความพึงพอใจในการให้บริการก็จะกลับมาใช้บริการซ้ำ ดังนั้นการให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมจะเป็นการสร้างความประทับใจและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาใช้บริการมากขึ้น สำหรับการสื่อสารด้านการตลาดเมืองพัทยามีการทำงานร่วมกับสมาคม องค์กรต่างๆ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ โดยเฉพาะการแสดงความเป็นมิตร และการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม รวมถึงทัศนคติของคนในท้องถิ่นต่อนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นสิ่งที่เมืองพัทยาให้ความสำคัญและจะช่วยสร้างความมั่นใจรวมถึงการตัดสินใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้


นางสาวพุทธชาด แปงใจ รองประธานฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ครอส โฮเตลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ จำกัด กล่าวว่า ครอสพัทยาโอเชียนเฟียร์ เป็นโรงแรมในเครือ เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกกลุ่มที่เดินทางเข้าพัก และพร้อมสนับสนุนนโยบาย และสร้างความเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ โดยร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นในการสนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น เทศกาล Pride Month หรืองานภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังพัฒนาแพ็กเกจท่องเที่ยว และประสบการณ์ที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางกลุ่มนี้ เช่น ทัวร์ที่เป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ ประสบการณ์เกี่ยวกับ Nightlife และ Wellness Retreats นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายเรื่องความเท่าเทียม สำหรับสิทธิประโยชน์ของพนักงานทุกกลุ่ม เน้นความเป็นธรรมในการจัดการสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี และส่งผลต่อผู้ใช้บริการเข้าพัก ให้ได้รับการบริการและประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

นายปรมะ องค์กิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หนึ่งในวัฒนธรรมองค์กรที่เซ็นทรัลพัฒนาให้ความสำคัญคือการเคารพความแตกต่างของทุกคน และให้โอกาสอย่างทั่วถึงกับกลุ่มคนที่หลากหลาย สำหรับเดือนมิถุนายนที่ทั่วโลกได้มีการเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) เซ็นทรัลพัฒนาสนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม ผ่านการจัดกิจกรรมตลอดเดือนที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ สะท้อน 3 เรื่องสำคัญคือ ความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Inclusivity) และ การมีส่วนร่วม (Equality) พร้อมประกาศความภาคภูมิใจ ดันประเทศไทย ให้เป็น Top of Pride Destination ของคนทั่วโลก

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า เคทีซีให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน คำนึงถึง ESG โดยเฉพาะการให้โอกาสและความเท่าเทียมในสังคม รวมทั้งความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality) ทั้งการจ้างงาน การปฏิบัติต่อบุคลากรในองค์กรอย่างเท่าเทียม ซึ่งพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ถือเป็นหนึ่งจุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวและรองรับนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงเป็นจังหวัดที่เคทีซีมีฐานสมาชิกและยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากเป็นอันดับ 2 รองจาก กทม.และปริมณฑล โดยยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่จังหวัดชลบุรีสุงสุด ได้แก่ หมวดน้ำมัน หมวดร้านอาหาร และหมวดท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน เคทีซีพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลกที่ต้องมาพร้อมความเท่าเทียม.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

ภาคใต้น่าห่วง น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ ยะลาอ่วมสุด

จังหวัดภาคใต้น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.ยะลา หนักสุดในรอบหลายสิบปี ขณะที่ปัตตานี ประกาศให้โรงเรียนในเขตเทศบาลฯ ปิดการเรียนการสอน 2 วัน เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤติ