กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – “พัชรวาท” กำชับมาตรการรับมือฤดูฝน ให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเตรียมพร้อมเครื่องมือ – บุคลากร ระบบแจ้งเตือนทันท่วงที ติดตามศูนย์แก้ปัญหาน้ำท่วม – น้ำแล้ง ย้ำเร่งช่วยประชาชนจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจติดตามการดำเนินงานศูนย์อำนวยการติดตามและแก้ไขปัญหาภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยมีนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำและนางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาล ต้อนรับ
ในฤดูแล้งนี้ มีประชาชนแจ้งเรื่องภัยแล้งมาทั้งสิ้น 71 ราย โดยทั้งหมดได้รับการแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น พร้อมกันนี้กรมทรัพยากรน้ำรายงานถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้งใน 34 จังหวัดซึ่งได้แจกจ่ายน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ 393,012 คน พื้นได้รับประโยชน์ 460,457 ไร่ รวมทั้งสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือชาวเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด เป็นต้น ในจังหวัดระยอง จันทรบุรี ตราด รวมช่วยเหลือประมาณ 27,127 ไร่
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลรายงานว่า สามารถบรรเทาความเดือดร้อนด้านน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ 83,640 คน รวมพื้นที่ 43,000 ไร่ แจกจ่ายน้ำให้แก่ประชาชน ไม่น้อย กว่า 4.7 ล้านลิตร ประชาชนได้รับประโยชน์ 553,835 คน พร้อมดำเนินการเป่าล้างบ่อน้ำบาดาล ซ่อมแซมระบบประปาบาดาล ซ่อมแซมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ อีกทั้งได้แก้ไขปัญหาพื้นที่เกาะยาว จังหวัดพังงา ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคทุกปี จึงเข้าไปสำรวจ และเจาะพัฒนาบ่อน้ำบาดาล ทำให้ประชาชนได้รับประโยชนไม่น้อยกว่า 14,400 ราย
พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ประเทศไทยกําลังจะเข้าสู่ฤดูฝนเพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและบรรเทาน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้น ขอให้ดําเนินการดังนี้
- ให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ เครื่องจักร และบุคลากรให้พร้อมปฏิบัติงาน รวมถึงระบบโทรมาตรและระบบแจ้งเตือนให้สามารถตรวจวัดและแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนได้ทราบข้อมูล
- ให้กรมทรัพยากรน้ำเร่งพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำทุกประเภทและแก้มลิง สำหรับรองรับน้ำ กักเก็บน้ำไว้ใช้ในปีถัดไป
- ให้กรมทรัพยากรน้ำตรวจสอบความมั่นคงและความปลอดภัยของอาคารบังคับน้ำ คันกั้นน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ
นอกจากนี้ยังห่วงใยต่อสถานการณ์ภัยแล้งที่ยังมีหลายพื้นที่ประสบปัญหาอยู่ทั้งน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อเกษตรกรรม ดังนั้นจึงขอให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ภัยแล้งตามแผนและมาตรการที่กําหนดไว้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ . 512 – สำนักข่าวไทย