fbpx

“ไบเดน” จะเดินทางไปบัลติมอร์สัปดาห์หน้าหลังเหตุเรือชนสะพาน

วอชิงตัน 30 มี.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า เขาจะเดินทางไปยังเมืองบัลติมอร์ ในรัฐแมรีแลนด์ในสัปดาห์หน้า หลังจากเกิดเหตุเรือบรรทุกสินค้าชนตอม่อสะพานจนทำให้สะพานพังถล่มลงมาเมื่อต้นส้ปดาห์ที่ผ่านมา


สะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ พังถล่มลงมาเมื่อตอนเช้าตรู่ของวันอังคารที่ 26 มีนาคม หลังจากเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่เกิดไฟฟ้าดับทำให้เรือชนกับโครงสร้างสะพานที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวบัลติมอร์ ผลกระทบจากการชนของเรือทำให้สะพานเกือบทั้งหมดที่สร้างอยู่บริเวณปากแม่น้ำปาแทปสโก (Patapsco) พังถล่มในทันที ซากชองสะพานที่ร่วงหล่นลงในน้ำปิดกั้นเส้นทางการเดินเรือและทำให้ต้องปิดการใช้งานท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีเรือสินค้าพลุกพล่านมากที่สุดดแห่งหนึ่งในบริเวณฝั่งตะวันออกของสหรัฐ นายไบเดน กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เขาจะเดินทางไปยังเมืองบัลติมอร์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และเขาต้องการให้รัฐบาลกลางจ่ายเงินเพื่อก่อสร้างสะพานขึ้นมาใหม่

ทางด้านนายเวส มอร์ ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ กล่าววานนี้ว่า เครนและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติมกำลังเดินทางมายังจุดที่สะพานถล่มเพื่อเริ่มการเคลี่อนย้ายซากขนาดใหญ่ของสะพานที่พังเสียหายอยู่ในน้ำ เขากล่าวว่า เครนขนาดใหญ่ที่สุดของฝั่งทะเลด้านตะวันออกของสหรัฐที่สามารถยกสิ่งของได้หนักถึง 1,000 ตัน ถูกนำมาอยู่ที่ท่าเรือของเมืองบัลติมอร์ในวันศุกร์แล้ว พร้อมที่จะเริ่มการขจัดซากสะพานที่พังเสียหายขึ้นจากน้ำ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มงานได่ในช่วงเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น  เครนตัวที่ 2 กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทาง ซึ่งคาดว่าจะมาถึงในไม่ช้าเพื่อช่วยความพยายามในการขจัดซากสะพาน


เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและของรัฐแมรีแลนด์มุ่งเน้นการเปิดทางให้กับท่าเรือและสร้างสะพานขึ้นมาใหม่ หลังจากเรือสินค้า “ดาลี” ชนกับแท่นรองรับสะพาน ทำให้มีคนงานที่กำลังซ่อมผิวถนนบนสะพานน่าจะเสียชีวิต นักประดาน้ำพบศพแล้ว 2 ราย ส่วนอีก 4 รายยังสูญหายแต่คาดว่าจะเสียชีวิตแล้ว ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวจากเม็กซิโกและอเมริกากลาง เจ้าหน้าที่ระบุว่า การสร้างสะพานทดแทนสะพานอายุ 47 ปี ที่พังถล่มไปนั้นน่าจะใช้เวลาหลายปี แต่ท่าเรือสามารถเปิดใช้งานได้ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ หากสามารถย้ายซากสะพานได้อย่างรวดเร็ว.-61.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง