สำนักข่าวไทย 12 ธ.ค.-เชลซี เฉือนชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ขึ้นนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ส่วนแมนฯยู เปิดบ้านชนะ สเปอร์ส ขณะที่ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงแค่เสมอกับเวสต์แฮม
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 15 เมื่อคืนที่ผ่านมา เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เฉือนชนะ “เดอะ แบ๊กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-0 ได้ประตูชัยจาก ดีเอโก คอสตา ในนาที 76 ทำให้ เชลซี ชนะ 9 นัดรวด เก็บเพิ่มเป็น 37 คะแนน จาก 15 นัด แซง อาร์เซนอล กลับมาทวงจ่าฝูงคืนได้สำเร็จ ส่วนเวสต์บรอมวิช มี 20 คะแนน อยู่อันดับ 8
ด้านทีม”ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เฉือนชนะ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก เฮนริคห์ มคิตาร์ยาน ในนาที 29 และเป็นประตูแรกของมคิตาร์ยานในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ด้วยทำให้ “ปีศาจแดง” เก็บเพิ่มเป็น 24 คะแนน จาก 15 นัด รั้งอันดับที่ 6 ของตาราง ส่วน สเปอร์ มี 27 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับที่ 5 ของตารางคะแนน
ส่วน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดบ้านสนามแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของ “ขุนค้อน”เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก อดัม ลัลลานา นาทีที่ 5 แต่นาทีที่ 27 ดิมิทรี ปาเยต ยิงตีเสมอให้เวสต์แฮม 1-1 และนาทีที่ 39 มิคาอิล อันโตนิโอ มาทำประตูให้เวสต์แฮม พลิกขึ้นนำ 2-1 ก่อนที่ดิวอค โอริกี มาทำประตูตีเสมอให้ลิเวอร์พูล ในนาที 48 จบเกมเสมอ 2-2 ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 31 คะแนน รั้งอันดับที่ 3 ตามหลังจ่าฝูง เชลซี ห่าง 6 คะแนน ส่วน เวสต์แฮม มี 13 คะแนนอยู่อันดับที่ 17 ขณะที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-0
ส่วนผลฟุตบอลลาลีกา สเปน
เออิบาร์ เสมอ อลาเบส 0 – 0
เซลต้า บีโก้ แพ้ เซบีย่า 0 – 3
เอสปันญ่อล ชนะ สปอร์ติ้ง กิฆอน 2-1
เรอัล เบติส ชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0
ด้านกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
กายารี่ แพ้ นาโปลี 0–5
อตาลันต้า แพ้ อูดิเนเซ่ 1- 3
โบโลญญ่า เสมอ เอ็มโปลี 0-0
ปาแลร์โม่ แพ้ คิเอโว่ 0-2
โตริโน่ แพ้ ยูเวนตุส 1 – 3
อินเตอร์ มิลาน ชนะ เจนัว 2-0
ผลฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี
มึนเช่นกลัดบัค ชนะ ไมนซ์ 1-0
ชาลเก้ แพ้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 0-1
ผลฟุตบอลเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์
สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม แพ้ วิเทสส์ 0-1
อาแซ่ด อัลค์มาร์ แพ้ เฟเยนูร์ด 0-4
อูเทร็คท์ ชนะ เฮราเคิ่ลส์ 2-0
ทเวนเต้ ชนะ อาแจ็กซ์ 1-0
ผลฟุตบอลลีก เอิง ฝรั่งเศส
โอลิมปิก ลียง ชนะ แรนส์ 1-0
แซงต์ เอเตียน ชนะ แก็งก็อง 1-0
เปแอสเช เสมอ นีซ 2-2.-สำนักข่าวไทย