นครราชสีมา 18 ก.พ.- เจ้ากรมแผนที่ทหาร ลุยตรวจ ส.ป.ก.นิรนาม รุกเขตอุทยานฯ เขาใหญ่ คาด 2 สัปดาห์ รู้ผลว่าแนวเขตอยู่ในพื้นที่ของหน่วยงานใด
พล.ท.ชาคร บุญภักดี เจ้ากรมแผนที่ทหาร กระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นายสุรชัย ยุทธชนะ รองเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดถ่ายภาพทางอากาศ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานฯ ลงพื้นที่ตรวจจุดหลักแนวเขตอุทยานฯ และหลักเสาคอนกรีตบอกกิโลเมตร (กปม.) ของกรมป่าไม้ สมัยก่อนตั้งกรมอุทยานแห่งชาติฯ ตามแนวเขต เพื่อนำไปตรวจเปรียบเทียบกับแผนที่ทางอากาศของทหาร ตั้งแต่ปี 2502-2505 การประกาศตั้งเขาใหญ่เป็นอุทยานฯ พร้อมเข้าตรวจพื้นที่พิพาท การปักหมุด ส.ป.ก.4-01 และเก็บรายละเอียดในพื้นที่เขาใหญ่ บริเวณด้านในถนนแนวกันไฟ บ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มรดกโลกทางธรรมชาติ กว่า 72 แปลง พื้นที่กว่า 2,933 ไร่ ตามระวางและแผนผังของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่จุดที่มีการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01
เจ้ากรมแผนที่ทหาร กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องให้ทราบว่าพื้นที่เป็นของหน่วยงานไหน เช่น ของอุทยานฯ เขาใหญ่ หรือของ ปฏิรูปที่ดิน แล้วค่อยมาว่ากันว่าใครผิดใครถูก โดยขอเวลา 2 สัปดาห์เท่านั้น
ด้านนายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องอยู่ที่จิตสำนึกด้วย อย่าไปดูข้อกฎหมายเพียงอย่างเดียว เนื่องจากพื้นที่เป็นป่าถาวร มีร่องรอยสัตว์ป่า ช้างป่า กระทิง ออกหากินทุกวัน ยังจะมาประกาศเป็นเขต ส.ป.ก.4-01 ซึ่งตนและกรมอุทยานฯ ก็ไม่ยอม เพราะเขาใหญ่ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2505 และยังไม่มีการยกเลิกอุทยานฯ แล้วหน่วยงานอื่นจะมาบอกว่าเป็นพื้นที่ของตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว และตนมองว่า ในระดับชาวบ้าน ไม่มีหนทางที่จะมาทำแบบนี้ได้ ต้องมีขบวนการ หวังยึดที่ราชการ
นายเจริญ โพสาวัง อดีตผู้ใหญ่บ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 กล่าวว่า ตนเป็นคนในพื้นที่มายาวนาน และลูกหลานก็ไปลงทะเบียนไว้ที่ ส.ป.ก. จังหวัดนครราชสีมา นานกว่า 20 ปี แต่ไม่มีใครได้ เช่นเดียวกับชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีใครได้เอกสารทำกินจาก ส.ป.ก. โดยย้อนหลังกลับไปให้ใกล้เคียง ตั้งแต่การประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศมายาวนานกว่า 62 ปี เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าน้อยใหญ่ รวมทั้งประชาชนคนในพื้นที่ร่วมกันหวงแหนรักษาไว้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าถาวร ไม่เคยมีบุคคลใดบุกรุกเข้าไปถือครองทำกินมาก่อน โดยได้เข้าประชุมรับฟังที่ห้องประชุม โรงเรียนบ้านปรางคล้า ต.หมูสี อ.ปากช่อง
ด้านนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยเจ้ากรมแผนที่ทหาร ร่วมกันแถลงข่าวที่ โรงเรียนบ้านปรางคล้า ต.หมูสี โดยนายธนดล กล่าวว่า จะหาทนายมาให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกกรมอุทยานฯ แจ้งความดำเนินคดีทั้ง 5 ราย ให้ชาวบ้านที่ได้รับเอกสารสิทธิหยุดเข้าไปในพื้นที่ จนกว่าคณะทำงานจากกรมแผนที่ทหารจะสรุปว่า พื้นที่ที่มีการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 เป็นของใคร และจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ว่าออกหลักฐานการครอบครองเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
สำหรับการตรวจสอบพิกัดแปลงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้ารื้อถอนหมุดแนวเขตสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 27 หมุด ในเขตพื้นที่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง พร้อมรื้อป้ายประกาศการแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ถูกนำมาติดไว้บริเวณที่ดิน 3 ไร่ ที่มีการแผ้วถาง หลังตรวจสอบพบว่า ที่ดินที่มีการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. พื้นที่ 15 ไร่ อยู่ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ครอบครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา พร้อมยื่นเรื่องถึง ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ หลังพบเพิ่มเติมว่ามีการออกเอกสารสิทธิไปแล้วกว่า 900 ไร่ เบื้องต้นพบว่า ทั้งสองหน่วยงาน คือ อุทยานฯ ถือแผนที่และกฎหมายคนละฉบับ จึงต้องมีการตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหา หาข้อยุติทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ที่ต้องรอประกาศใช้วันแมปเป็นกฎหมายต่อไป.–สำนักข่าวไทย