จ.เชียงราย 22 ธ.ค.-“พวงเพ็ชร” ลงพื้นที่เชียงราย เยี่ยมชมการทำงานของ วัดห้วยปลากั้ง หลังร่วมโครงการสังฆาภิบาล ให้บริการปชช.-พระสงฆ์ฟรี ส่งผลให้พระเข้าถึงสิทธิการรักษาขั้นพื้นฐานของสปสช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.เชียงราย โดยเดินทางไปยังวัดห้วยปลากั้ง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามการดำเนินงานการพัฒนาวัด ด้านสาธารณสงเคราะห์ ตามโครงการสังฆาภิบาล โดยสงเคราะห์เด็กกำพร้าจำนวน 300 คน และพัฒนาวัดตามแนวคิดอารามภิรมย์ โดยมีพระไพศาลประชาทร วิ.(พระอาจารย์ พบโชค ติสสะวังโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้งเป็นผู้ให้ข้อมูล และพาเยี่ยมชมการดำเนินงานด้านสังคมของทางวัด ได้แก่ สถานรับเลี้ยงเด็กด้อยโอกาส สถานพักพิงสำหรับคนไร้ที่พึ่ง เยี่ยมชมโรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้งที่เปิดให้การรักษาแก่ประชาชนและพระสงฆ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งวัดห้วยปลากั้งได้เข้าร่วมโครงการสังฆาภิบาล พระสงฆ์อาพาธตามนโยบายรัฐบาล
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รายงานว่า ปัจจุบันมีพระภิกษุสงฆ์ ทั้งหมดจำนวน 288,956 รูป พระอาพาธทั่วประเทศประมาณ 10,000 รูป ซึ่งบางรูปไม่ได้รับการรักษาตามสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของ สปสช. บางรูปไม่มีผู้ดูแล พศ. จึงจัดทำโครงการในการให้ความช่วยเหลือพระสงฆ์ ประกอบด้วย โครงการอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการสังฆาภิบาลเพื่อพระสงฆ์อาพาธ โครงการกุฎิสงฆ์อาพาธร่วมกับโรงพยาบาลสงฆ์ นอกจากนี้พศ. ยังสร้างกลไกความร่วมมือจัดบริการดูแลพระสงฆ์ ทำสถานชีวาภิบาลสำหรับองค์กรพระพุทธศาสนา ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงฐานข้อมูลของเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ในการเข้ารับการรักษาพยาบาล ตามข้อกำหนดของ สปสช.
เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง กล่าวว่า โรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้งเพื่อสังคมสร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่เข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ยาก ที่ผ่านมาวัดห้วยปลากั้ง เป็นสถานที่ทำบุญแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าว่าจะรองรับผู้ป่วยทั่วไปได้วันละประมาณ 500 คน และผู้ป่วยด้านทันตกรรมวันละประมาณ 120 คน สิ่งสำคัญคือการให้บริการ เน้นการทำบุญ โดยรับรักษาฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเปิดให้บริการด้านศูนย์ทันตกรรม ศูนย์โพลีคลินิก ศูนย์ฝึกวิชาชีพ เป็นต้น และให้บริการเฉพาะผู้ป่วยนอกโดยไม่มีบริการนอนพัก ผู้ป่วยฉุกเฉินหรือทั่วไปเข้ารับการตรวจรักษาและกลับบ้านได้ หรือหากอาการหนักจะส่งตัวไปรักษาต่อ ณ สถานพยาบาลใกล้เคียง เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565.-316.-สำนักข่าวไทย