กรุงเทพฯ 21 ก.ค.- ผบ.ตร.พร้อมคณะบินลงกระบี่รับมอบตัวทีมฆ่ายกครัว 8 ศพจากเจ้าหน้าที่ทหาร ก่อนคุมตัวฝากขังท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยยกเลิกการทำแผนหวั่นความไม่ปลอดภัย เตรียมทำหนังสือเรียก พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์เข้าให้ข้อมูล “เจ๊ชุมพร”ลั่นหากข้อมูลไม่จริงต้องรับผิดชอบ
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับมอบผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ และคนในครอบครัวรวม 8 ศพ จากการควบคุมของทหาร หลังจากที่ศาลจังหวัดกระบี่ ออกหมายจับนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ บังฟัต /นางสาวชลิตา สังขโชติ ภรรยาของบังฟัต /นายประจักษ์ บุญทอย /นายคมสรรค์ เวียงนนท์ /นายอับดุลเลาะ ดอเลาะห์ /นายธวัชชัย บุญคง /นายธนชัย จำนอง และนายอรุณ ทองคำ ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน /ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิด /ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน /ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยทำร้ายจิตใจผู้อื่น แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน และซ่องโจร
โดยนายซูริก์ฟัต และนายคมสัน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กับข้อหาอื่นๆ รวม 6 ข้อหา /ส่วนอีก 6 คนที่เหลือถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิด และข้อหาอื่นรวม 6 ข้อหาเช่นกัน
สำหรับขั้นตอนในการรับมอบตัว ผู้ต้องหาทั้ง 8 คนจะได้รับสิทธิตามกฏหมาย และจัดทีมแพทย์ตรวจร่างกาย วัดความดัน เพื่อยืนยันสภาพร่างกายของกลุ่มผู้ต้องหาว่า มีสภาพร่างกายสมบูรณ์อย่างไรบ้าง พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา / จากนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาแต่ละคนในเบื้องต้น และชี้แจงสิทธิทางกฏหมาย โดยมีทนายความอาสา ร่วมรับฟัง เพราะถือว่าคดีนี้ศาลจังหวัดกระบี่ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว
จากนั้นตำรวจได้คุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดไปขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่ฝากขังและพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว โดยทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปควบคุมยังเรือนจำจังหวัดกระบี่
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังย้ำถึงสาเหตุแรงจูงใจการก่อเหตุ เกิดจากปัญหาความขัดแย้งการจำนองโฉนดที่ดินระหว่างนายซูริก์ฟัต กับนายวรยุทธ จนเป็นสาเหตุของการฆาตกรรม พร้อมเตรียมออกหนังสือเรียกตัว พันตำรวจโทสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล 2 มาให้ปากคำกับพลตำรวจเอกสุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังออกมาให้ข้อมูลอ้างถึง บุคคลชื่อ เจ๊ชุมพร ว่าเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนี้ โดยยืนยันว่า ส่วนตัวไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ และหากพบข้อมูลดังกล่าวไม่มีข้อเท็จจริง พันตำรวจโทสันธนะ ต้องรับผิดชอบ และอาจจะถูกฟ้องร้องได้ เพราะในข้อเท็จจริง ส่วนตัวบอกได้เพียงว่า เจ๊ชุมพร เป็นเพียงภรรยาเจ้าของโรงโม่หินแห่งหนึ่งเท่านั้น
ส่วนสาเหตุที่ไม่นำตัวผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพราะเกรงว่า จะเกิดเหตุความวุ่นวายระหว่างทำแผนได้ และได้กำชับให้ในพื้นที่เฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการล้างแค้นกันเกิดขึ้นในอนาคต แต่เชื่อมั่นว่า ไม่มีเหตุลักษณะนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังยืนยัน การสืบสวนไม่พบบุคคลอื่นเกี่ยวข้องในคดี แต่หากในอนาคตปรากฏข้อมูลอันเป็นประโยชน์ มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องก็จะจับมาดำเนินคดีต่อไป และยืนยันว่าไม่มีการจับแพะ ด้วยเกียรติของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ.-สำนักข่าวไทย