ไทยพร้อมขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 

นครซานฟรานซิสโก 14 พ.ย.– ณ โรงแรม The Ritz Carlton ไทยพร้อมขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ย้ำกับต่างชาติ ไทยบรรยากาศเอื้อต่อการลงทุน  แจง Digital Wallet ช่วยวางรากฐานทางการเงินยุคใหม่ 


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมประชุมและกล่าวปาฐกถาเปิดงานNetworking Reception โดยมีผู้แทนภาคเอกชนไทยจาก 16 บริษัท คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และบริษัทสหรัฐฯ จากกว่า 9 สาขา อาทิ ดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์ การเงิน และ ไบโอเทคโนโลยี เป็นต้น เข้าร่วมด้วย 

 นายกฯ กล่าวย้ำว่า “ประเทศไทยเปิดกว้าง และพร้อมเปิดรับภาคธุรกิจแล้ว”    จึงนำภาคเอกชนชั้นนำของไทย  พบปะกับภาคเอกชนสหรัฐฯ   เพื่อเป็นสะพานเชื่อมต่อสาน ประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย  นับว่า ไทยและสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดมาอย่างยาวนานในหลายระดับและหลายมิติ  ทั้งความสัมพันธ์ทางการทูต เศรษฐกิจและการลงทุน โดยเฉพาะมิติทางเศรษฐกิจ   ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ การค้าทวิภาคีมีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ   สหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของไทย ขณะที่ด้านการลงทุน จากข้อมูลของ BOI แสดงให้เห็นว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับสามของไทย ด้วยเงินลงทุนรวม 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 


นายกฯ ได้ใช้โอกาสนี้ กล่าวย้ำว่า  ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับการลงทุนและมีศักยภาพการเติบโตสูงมากในเอเชีย ด้วยแรงขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจมหภาคที่ดี เสถียรภาพทางการเมือง การบริหารธุรกิจแบบมืออาชีพและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการลงทุน  รัฐบาลมีนโยบายสำคัญ ศักยภาพ และโอกาสสำหรับภาคเอกชนสหรัฐฯดังนี้

ด้านการลงทุนที่จะผลักดันประเทศสู่ “เศรษฐกิจใหม่ (New Economy)” ที่มีนวัตกรรม ความสามารถในการแข่งขันและครอบคลุม ซึ่งใน 4 ปีข้างหน้า ประเทศไทยมุ่งส่งเสริมการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) BCG (2) อุตสาหกรรมยานยนต์ (3) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (4) อุตสาหกรรมดิจิทัลและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และ(5) สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค ซึ่งนายกฯ เชื่อมั่นว่า เป้าหมายเหล่านี้จะสร้างโอกาสให้นักลงทุนสหรัฐฯ ในการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและบริการสำหรับการดำเนินธุรกิจในเอเชีย และทั่วโลก

ด้านความยั่งยืน รัฐบาลมุ่งมั่นสร้างการเติบโตสีเขียวและยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน(carbon neutrality) ในปี 2050 และการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2065 ซึ่งความพยายามดังกล่าวสอดคล้องกับปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ที่ผู้นำเอเปคได้รับรองเมื่อปี 2022 กับธีมการประชุมเอเปคของสหรัฐในปีนี้ “การสร้างอนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนสำหรับทุกคน” (Creating a Resilient and Sustainable Future for All)


ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ จุดแข็งของไทยคือการเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ในอาเซียน และใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก ซึ่งจากพื้นฐานที่มั่นคงนี้ ไทยมุ่งมั่นที่จะฐานการผลิตในภูมิภาคสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยเป้าหมาย the 30@30 เพื่อผลิตรถยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission Vehicles : ZEVs) อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการ EV แห่งชาติได้อนุมัติมาตรการส่งเสริมEV 3.5 (ปี 2024-2027) เพื่อส่งเสริมการลงทุนในระบบแวดล้อมสำหรับอุตสาหกรรม EV ทั้งระบบ ทั้งนี้ นโยบาย EV ของไทยดึงดูดการลงทุนเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการผลิตชิ้นส่วนและส่วนประกอบและสถานีชาร์จ ไทยเป็นประเทศที่ใช้รถ EV สูงที่สุดในอาเซียน โดยมีจำนวน BEV ที่จดทะเบียนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ที่ประมาณ68,000 คัน

รัฐบาลไทยได้ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและความสามารถทางดิจิทัลอีกด้วย  จึงได้ออกมามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  ผ่านโครงการ Digital Wallet วางรากฐานสําหรับระบบการชําระเงิน blockchain ทั่วประเทศและเปิดโอกาสรับการลงทุนจากต่างประเทศใน FinTech   ประเทศไทย ได้จัดตั้ง HQ Biz Portal เป็นศูนย์บริการครบวงจร One-stop-service เพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลการทำงานให้บริษัทที่ต้องการจัดตั้งสํานักงานใหญ่ประจําภูมิภาคในประเทศไทย   การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ Mega Projects ปรับปรุงความเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคของประเทศ  หนุนโครงการLandbridge หนึ่งใน Mega Project มูลค่า 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์  หวังเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ทั้งการพาณิชย์และโลจิสติกส์ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี