กองทัพภาคที่ 1 29 ก.ย.-กองทัพภาคที่ 1 รับส่งหน้าที่แม่ทัพ “พล.ท.พนา” การันตีแม่ทัพใหม่ทำกองทัพก้าวหน้า เป็นกำลังหลักของกองทัพบก ขณะ “พล.ท.ชิษณุพงศ์” ให้คำมั่นจะซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ ยุติธรรม
กองทัพภาคที่ 1 จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 โดยพล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ แม่ทัพภาคที่ 1 ส่งต่อหน้าที่ให้แก่พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพน้อยที่ 1 โดยลงนามในเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ ณ ห้องพระบารมีปกเกล้า อาคารกองบัญชาการ และมอบธง ทภ.1 หรือ ธงประจำกองทัพภาคที่ 1 พร้อมพิธีสวนสนาม
สำหรับพล.ท.พนา ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ปฏิบัติหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รับความร่วมมือร่วมใจเป็นอย่างดีจากผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน ส่งผลให้ภารกิจต่าง ๆ ของกองทัพภาคที่ 1 ที่ได้รับมอบจากผู้บังคับบัญชาสำเร็จลุล่วงด้วยดี จนเป็นที่เชื่อมั่นของผู้บังคับบัญชา และเป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงขอขอบคุณทุกคนไว้ ณ โอกาสนี้
“สำหรับแม่ทัพภาคที่ 1 ท่านใหม่ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ปฏิบัติราชการอยู่ในกองทัพภาคที่ 1 เป็นระยะเวลายาวนาน และก่อนที่ท่านจะดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ดำรตำแหน่งที่สำคัญในกองทัพภาคที่ 1 มาโดยตลอด จึงมีความมั่นใจว่า กองทัพภาคที่ 1 ภายใต้การนำของแม่ทัพภาคที่ 1 ท่านใหม่ จะมีความเจริญก้าวหน้า เป็นกำลังหลักของกองทัพบก ในการปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาอธิปไตยของชาติ รวมทั้งเป็นกำลังสำคัญ ในการช่วยเหลือประชาชน พัฒนาประเทศ เพื่อสร้างความผาสุกให้เกิดแก่พี่น้องประชาชน และประเทศชาติสืบไป” พล.ท.พนา กล่าว
ขณะที่พล.ท.ชิษณุพงศ์ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า จะสืบสานงานตามปณิธาน พิทักษ์ราชันย์ ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงการดูแลประชาชน ตลอดจนการดูแลสวัสดิการให้กับกำลังพลทุกระดับชั้น ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องสืบสานแนวทาง และมาตรฐานในการปฏิบัติงาน ดังที่ท่านอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 ได้วางรากฐานไว้ต่อไปให้ดียิ่งขึ้น โดยมีกำลังพลในกองทัพภาคที่ 1 ร่วมปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ
“ขอสัญญาว่าจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ และยุติธรรม ดังเช่นที่ท่านอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างมาแล้ว ผมจะปฏิบัติหน้าที่ยึดมั่นตามคำขวัญของกองทัพบก” พล.ท.ชิษณุพงศ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย