วอชิงตัน 29 มิ.ย. – สหรัฐเผยมาตรการยกระดับการรักษาความปลอดภัยสำหรับเที่ยวบินที่เดินทางมาสหรัฐ เพื่อจะได้ไม่ต้องขยายมาตรการห้ามผู้โดยสารนำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กขึ้นเครื่องไปยังสนามบินอื่นๆ เพิ่มเติม แต่กลุ่มผู้ประกอบการสายการบินเห็นว่า มาตรการอาจจะสร้างปัญหามากขึ้น
มาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ ที่เจ้าหน้าที่ยุโรปและสหรัฐกล่าวว่า จะเริ่มให้มีผลบังคับใช้ภายในสามสัปดาห์ จะเป็นการสั่งให้สายการบินตรวจสอบผู้โดยสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส่วนตัวเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำระเบิดขึ้นเครื่องบิน มาตรการดังกล่าว ซึ่งใช้แทนการขยายคำสั่งห้ามนำโน้ตบุ๊กขึ้นเครื่อง จะกระทบผู้โดยสาร 325,000 คน และสายการบิน 180 แห่งที่ให้บริการเที่ยวบินราว 2,000 เที่ยวเดินทางจากท่าอากาศยาน 280 แห่งใน 105 ประเทศ มายังสหรัฐในแต่ละวัน
การตัดสินใจไม่ขยายมาตรการสั่งห้ามผู้โดยสารนำโน้ตบุ๊กขึ้นเครื่องบินไปยังพื้นที่อื่นๆ ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลของบรรดาสายการบินในสหรัฐและยุโรป พวกเขาระบุว่า คำสั่งดังกล่าวที่ห้ามไม่ให้ผู้โดยสารที่เดินทางจากท่าอากาศยาน 10 แห่งใน 8 ประเทศ มายังสหรัฐ นำโน้ตบุ๊กขึ้นเครื่องก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดปัญหาด้านการขนส่งและกระทบต่อการเดินทางอย่างหนัก ในส่วนของการยกระดับการรักษาความปลอดภัย บรรดาผู้ประกอบการสายการบินสหรัฐประกาศว่า จะปฏิบัติตามคำสั่ง แต่รัฐบาลควรมีการประสานงานกับสายการบินมากกว่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา รวมถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
ด้านนายจอห์น เคลลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐหวังว่า บรรดาสายการบินจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐในเรื่องของการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตรวจสอบวัตถุระเบิดในแต่ละเที่ยวบิน หากมีสายการบินใดไม่ปฏิบัติตาม อาจจะต้องถูกสั่งห้ามไม่ให้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่เผยว่า สายการบินต้องออกมาตรการตรวจสอบหาร่องรอยวัตถุระเบิดตามคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐภายใน 21 วัน และต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ภายใน 120 วัน.- สำนักข่าวไทย