ทำเนียบฯ 18 ก.ค. – ครม. ไฟเขียวให้เปิดสถานบริการในเมืองการบินภาคตะวันออก ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับภาคธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมจัดโซนนิ่งไม่ให้กระทบต่อชุมชน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิด-ปิดของสถานบริการ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เพื่อกำหนดวันเวลาเปิด-ปิดของสถานบริการทุกประเภทที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เมืองการบินภาคตะวันออก ให้เปิดบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอขยายพื้นที่สถานบริการในอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ให้เป็นพื้นที่เมืองการบินภาคตะวันออกด้วย เพื่อหวังกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก เนื่องจากพื้นที่เมืองการบินภาคตะวันออก เป็นพื้นที่มีศักยภาพ สามารถจัดกิจกรรมสันทนาการ รองรับนักธุรกิจ ผู้เดินทาง นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการสนามบินอู่ตะเภา
ที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการด้วย ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เห็นว่าควรมีการประเมินความคุ้มค่าในมิติสังคมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม เช่น ความปลอดภัยด้านการขนส่ง ทางทรัพย์สิน มลพิษทางเสียงและขยะ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ แนะให้ควรคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดบริการ 24 ชั่วโมง ของสถานบริการบางประเภท มาตรการด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ความเสี่ยงต่อโรคระบาดของผู้ใช้บริการและชุมชนโดยรอบ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) พร้อมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องและภาคเอกชน ในการจัดโซนพื้นที่และประเภทกิจกรรมที่จะดำเนินการเฉพาะกลุ่ม เช่น โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ร้านอาหาร ที่มีการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มซึ่งรวมถึงแอลกอฮอล์ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ตามแผนการของสำนักงานอีอีซี พร้อมปิดกันพื้นที่อย่างเคร่งครัด โดยกั้นรั้วสูงโดยรอบบริเวณพื้นที่จะกำหนดประตูเข้าออกที่แน่นอน ระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ในการควบคุมและกำกับการเข้าออกของบุคคลทั่วไปและภายในพื้นที่เมืองการบิน โดยจะไม่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่โดยรอบ.-สำนักข่าวไทย