กรุงเทพฯ 10 มิ.ย.-โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ สั่งปรับกระบวนการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาประเทศ เน้นเชื่อมโยงแผนงานทุกระดับและมุ่งผลสำเร็จของงานอย่างยั่งยืน ชี้พร้อมใช้ ม.44 ดำเนินการให้รวดเร็วและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ให้ไปจัดทำโครงสร้างและกลไกการทำงาน รวมทั้งแนวทางแก้ไขกฎหมายและระเบียบในการบริหารแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ทั้งในระดับชาติ ภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด และอำเภอใหม่ทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นจะจัดทำรายละเอียดข้อเสนอแผนงาน โครงการ หลักเกณฑ์ และวิธีบริหารงบประมาณที่มีความสอดคล้องกันในทุกระดับต่อไป
“นายกฯ เน้นย้ำว่าที่ผ่านมากระบวนการจัดสรรงบประมาณมีปัญหา คือ ขาดความเชื่อมโยงในการวางแผนทุกระดับ เน้นการใช้จ่ายมากกว่ามุ่งผลสำเร็จของงาน ขาดความสอดคล้องกันระหว่างแผนการปฏิบัติกับการจัดสรรงบประมาณ จึงจำเป็นต้องปรับระบบใหม่ เพื่อให้งบประมาณเป็นเครื่องมือการบริหารที่เน้นความสำเร็จของนโยบาย รวดเร็ว โปร่งใส และให้ประชาชนเห็นเป็นรูปธรรม” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีกำหนดให้เพิ่มเติมแผนการใช้จ่ายระดับภาค จากเดิมที่มีเพียงระดับกลุ่มจังหวัดและจังหวัดเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนา 6 ภาคที่ครอบคลุม 18 กลุ่มจังหวัด และจะต้องบริหารงบประมาณโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างจังหวัด การจัดสรรให้เพียงพอต่อความจำเป็น และการสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตประชาชน ด้วยการเชื่อมโยงการขนส่ง การค้า การท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดและภาค
“รัฐบาลพร้อมใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อเร่งรัดให้การดำเนินการนี้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งนายกฯ เน้นว่าการจัดสรรงบประมาณจะต้องบูรณาการรวมทุกมิติ ทั้งนโยบายหรือยุทธศาสตร์เฉพาะด้าน (Agenda Based) ภารกิจของส่วนราชการ (Functional Based) และการพัฒนาภาค กลุ่มจังหวัดจังหวัด (Area Based) พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 12 และฉบับต่อ ๆ ไปด้วย” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย