จ.จันทบุรี 7 มิ.ย.-นายกฯลงพื้นที่สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ติดตามการพัฒนาเกษตรแปลงใหญ่ ย้ำรัฐบาลมุ่งสร้างเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้ภาคเกษตร ลดต้นทุนการผลิต ระบุเข้ามาทำงานไม่มุ่งหวังผลประโยชน์ ยืนยันเลือกตั้งแน่นอน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เดินทางถึงยังสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด ตำบลชากไทย อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ตรวจราชการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรจังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะผลการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่และการบริหารจัดการผลไม้ของจังหวัดจันทบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนให้การต้อนรับ
นายกรัฐมนตรีได้รับฟังรายงานผลการดำเนินงานพัฒนาการเกษตรจังหวัดจันทบุรี จากการส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่แบบครบวงจร และการบริหารจัดการผลไม้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมอบเงินสนับสนุนสินเชื่อ เพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่และเครื่องจักรกลการเกษตรภายใต้โครงการ Motor pool แก่เกษตรแปลงใหญ่โคนมสอยดาว จำนวน 10 ล้านบาท และสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการรับซื้อผลไม้ให้สหกรณ์การเกษตรเขาคิชกูฎ จำกัด 25 ล้านบาทแก่ผู้แทนสหกรณ์ และมอบสถานีสูบน้ำบ้านท่าอุดม เพื่อสนับสนุนพื้นที่แปลงใหญ่ 1 โครงการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อยืนยันความตั้งใจของรัฐบาลในการดูแลประชาชนทุกกลุ่มด้วยการจัดสรรงบประมาณสร้างความเข้มแข็งทุกจังหวัด โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร โดยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ถือว่ามีความสำคัญและมีศักยภาพ เพราะมีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของผลผลิตทางการเกษตร ให้เกิดรูปแบบการเกษตรแปลงใหญ่ที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการผลผลิตทางการเกษตร
“รัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่เชื่อมโยงกันของทุกจังหวัด ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลด้านการค้า การตลาด ที่ต้องสอดคล้องกับพันธะสัญญาระหว่างประเทศและมีความพร้อมรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก เพื่อให้เกิดการต่อยอดให้ไทยเป็นแหล่งอาหารสำคัญของโลก โดยแนวทางสำคัญคือลดต้นทุนการผลิต การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาคุณภาพสินค้าอย่างเหมาะสม มีความเข้าใจในการตลาด มีการบริหารจัดการผลผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการ และสร้างมาตรฐานของสินค้าให้มีความเป็นสากลได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งการรวมกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อให้เกษตรกรเกิดความเข้มแข็งทุกพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่ต้องเริ่มดำเนินการในวันนี้ และการที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายต้องมาจากความเข้าใจและความร่วมมือของทุกภาคส่วน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวฝากให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยี การสื่อสารให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะใช้เป็นช่องทางรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากรัฐบาล มากกว่าการใช้เทคโนโลยีติดตามข่าวสารที่อยู่ในกระแสเท่านั้น และไม่ใช่เสพติดหรือดูแต่ข่าวฆาตกรรม เพราะมีแต่การใช้ความรุนแรง ซึ่งเรื่องนี้ต้องแก้ปัญหาที่ครอบครัวเป็นอันดับแรก ส่วนคดีให้เป็นไปตามกระบวนการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมกรณีข่าวพ่อสอนลูกที่ร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน โดยให้ลูกไปทดลองเดินขายกล้วยแขก ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะต้องสั่งสอนให้เกิดการรับรู้ตั้งแต่เด็ก
นายกรัฐมนตรี ขอให้เกษตรกรยกมือสัญญาว่า อย่าหลงเชื่อหรือถูกชักจูงให้ออกมาชุมนุมทางการเมืองและเกิดการบาดเจ็บเหมือนในอดีต ที่ผ่านมารัฐบาลมีความจริงใจเข้ามาแก้ปัญหา ขออย่ารังเกียจทหาร ตำรวจ ตลอด 3 ปีที่เข้ามาทำงานมีความคืบหน้ามาก แม้อยู่บนสถานการณ์ความขัดแย้งสูง และยืนยันว่าเลือกตั้งต้องมีแน่นนอน จะเลือกใครขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน รวมถึงการเลือกอบต.และอบจ. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเลือกให้ดีด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองมีนิสัยส่วนตัวที่จะต้องแก้ไขเรื่องอารมณ์ร้อน เพราะเป็นทหาร และต้องเข้ามาทำงานการเมือง แต่ยืนยันไม่หวังประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น และมุ่งแต่แก้ปัญหาของประเทศที่มีอยู่จำนวนมาก และจะทำงานให้ทุกคน ไม่ว่าจะรักหรือเกลียดตนเองก็ตาม
ภายหลังพบกับประชาชน นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานด้านการเกษตร และชมกระบวนการจัดการและควบคุมคุณภาพผลไม้ก่อนส่งออก และกระบวนการประมูลมังคุดแปลงใหญ่.-สำนักข่าวไทย