fbpx

“บิ๊กโจ๊ก” แย้มแจ้งข้อหาคดี “น้องต่อ” อย่างน้อย 2 คน

นครปฐม 22 ก.พ. – “บิ๊กโจ๊ก” แย้มคดี “น้องต่อ” หายตัวปริศนา จ่อแจ้งข้อหาอย่างน้อย 2 คน ขณะที่แม่รับแล้วชายเสื้อเหลืองไม่มีอยู่จริง แต่ยังปิดบังบางอย่าง


พล.ต.ต.บุญฤทธิ์ รอดมา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางมาที่ สภ.บางหลวง ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจชุดสืบสวน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม แพทย์จาก รพ.บางเลน และ น.ส.นิ่ม แม่ของน้องต่อ ผ่านไปกว่า 3 ชม. ยังไม่มีใครออกมาจากห้องประชุม จากการพูดคุยกับนายพุด พ่อของน้องต่อ เล่าว่า รู้สึกเริ่มเบื่อ ตำรวจรับตัวไปสอบ ปากคำทุกวัน ถามซ้ำๆ คำถามเดิมๆ ถึงวันนี้เวลาผ่านไป 17 วัน ตัวเองไม่ได้ไปทำงานเลย โชคดีทางโรงงานยังเข้าใจว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จึงอนุญาตให้ลาหยุดได้ 30 วัน

ขณะเดียวกัน วันนี้ อาจารย์เจ พร้อมกำนันตำบลหินมูล และผู้นำชุมชน เดินเข้าไปบริเวณข้างบ้านของนายพุดและนางสาวนิ่ม พ่อและแม่ขิงน้องต่อ ซึ่งเป็นพงหญ้าหนาทึบ และเป็นคลองสาธารณะ โดยให้นายพุดจุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ช่วยคนหาลูกชายที่หายไป และคณะก็เดินเท้าเข้าไปค้นหา ใช้เวลากว่า 2 ชม. ไม่พบอะไรที่จะไปสู่การพบเด็กที่หายไป พบเพียงผ้าอ้อมเด็ก และกระดูกสุนัขตาย


ล่าสุดวันนี้ (22 ก.พ.) เวลา 17.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมา สภ.บางหลวง เพื่อติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องพร้อมเปิดเผยว่าวันนี้แม่เด็กยอมรับแล้วว่าชายเสื้อเหลืองไม่มีอยู่จริง แต่ยังปิดบังอะไรบางอย่าง จะให้ตำรวจเค้นสอบให้ชัดๆ อีกครั้ง ส่วนเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาขณะนี้พบการกระทำความผิดทางอาญาบางส่วน และจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาอย่างน้อย 2 คน แต่ไม่ใช่แม่เด็ก โดยพบการกระทำผิดส่วนไหนก็จะแจ้งความดำเนินคดีในส่วนนั้น วันนี้หากทุกอย่างพร้อมจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาอย่างน้อย 2 คน ส่วนจะจบเมื่อไหร่ ขอเวลาให้ตำรวจทำงานอีกนิด ต้องเอาความจริงออกมาให้ได้ เพราะน้ำหนักทั้งหมดอยู่กับแม่คนเดียว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้