23 ก.พ. – ตำรวจ สภ.บางหลวง คุมตัวนายพุด และนายแจ้ ไปขออำนาจศาลฝากขัง ขณะที่ “นิ่ม” ยืนยันไม่ได้โกหก ไม่รู้ว่าลูกอยู่ไหน ส่วนเรื่องชายเสื้อเหลือง ยอมรับสับสน
ช่วงเช้าที่ผ่านมา “นิ่ม” และแม่ของพุด เดินทางมาเยี่ยมนายพุด โดยนำข้าวกล่อง 2 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม ขณะถูกคุมตัวอยู่ที่ห้องขังที่ สภ.บางหลวง
น.ส.จำเนียร เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า จะไม่ประกันตัวลูกชาย เพราะทำผิดให้ยอมรับผิดไป ตอนนี้อยากเจอหลานมาก พร้อมบอกกับนิ่มว่า ให้เปิดออกมาเลย มีอะไรบอกแม่ อย่าปิดบังแม่ อยากให้สามีติดคุกเหรอ บอกไปเลย ลูกอยู่ไหน คนอื่นเดือดร้อนกันหมดแล้ว เสียใจที่ยังหาหลานไม่เจอ และพ่อเด็กยังมาติดคุกอีก
นอกจากนี้ยังสงสัยว่า ทำไมลูกชายโดนแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ เพราะไปสู่ขอตามประเพณี ไม่ได้ไปฉุดผู้หญิงมาครอบครัวรู้ทั้งสองฝ่าย
ด้าน “นิ่ม” ตอบแม่สามีว่า สงสาร ไม่อยากให้พุดลำบาก แต่ไม่รู้จริงๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายพุด เรื่องที่นิ่มโกหกเรื่องชายเสื้อเหลืองมาอุ้มลูกไป นายพุดบอกว่า เรื่องชายเสื้อเหลือง รู้มาจากนิ่มทั้งหมด
จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวทั้งนายพุดและลุงแจ้ ออกจากห้องคุมขัง ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม ระหว่างคุมตัวออกมา พ่อนายพุด ที่ป่วยอยู่ ก็มาเยี่ยมลูกชาย เพราะไม่รู้ว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ทันทีที่เจอก็โผกอดนายพุด ร้องไห้ด้วยความเป็นห่วง
นายพุดเปิดใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ยืนยันที่ผ่านมาไม่ได้โกหก พูดความจริงทุกอย่าง ส่วนกรณีชายเสื้อเหลืองอุ้มน้องออกไป ก็รู้ข้อมูลมาจากนิ่มคนเดียว เพราะไม่ได้เห็นเหตุการณ์ จนถึงตอนนี้ก็ยังเชื่อใจเหมือนเดิมและรักนิ่มเหมือนเดิม ส่วนน้องต่อก็อยากให้ตามหาให้พบ ไม่ได้สงสัยใคร และไม่รู้ว่าลูกอยู่ที่ไหน
ส่วนเรื่องคราบเลือดที่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน นายพุดบอกไม่รู้ว่าเป็นคราบเลือดอะไรเพราะรถจักรยานยนต์ที่มีในบ้าน 2 คัน เป็นของตนเองและรถของพี่ชาย ไม่เคยรู้มาก่อนว่ารถคันนั้นมีคราบเลือด ส่วนนิ่มจะโกหกหรือไม่ นายพุดเชื่อว่านิ่มไม่ได้โกหก แต่พูดในสิ่งที่เห็นและคิดเท่านั้น
ส่วน “นิ่ม” ที่ออกมายอมรับไม่มีชายเสื้อเหลืองเข้ามาอุ้มลูกจริง ว่าตอนนั้นยังหลับ และให้การเหมือนเดิมว่าไม่ได้ทำร้ายลูก ไม่ได้นำลูกไปซ่อน ตอนนี้ไม่รู้ว่าลูกอยู่ที่ไหน มีชะตากรรมเป็นเช่นไร ยืนยันไม่ได้โกหก พูดทุกอย่างไปตามความจริง อยากเจอลูกเช่นกัน ย้ำไม่ได้ปากแข็ง ที่ยอมรับเรื่องชายเสื้อเหลืองเพราะว่าไม่มีจริงๆ แต่ตนเองสับสน ไม่ได้โกหก
ส่วนกระแสข่าวเรื่องคลิปลับ ขอไม่พูดถึง ขอให้เป็นการดำเนินการของตำรวจ และขอร้องสังคมอย่าจ้องจับผิดตน. – สำนักข่าวไทย