กทม. 17 ธ.ค.-ตำรวจคุมตัว “พี” มือยิงคู่กรณีดับคา สน.หลักสอง ขออำนาจศาลอาญา ธนบุรี ฝากขังผัดแรก เบื้องต้น ผู้ต้องหา ปฏิเสธขอโทษครอบครัวผู้ตาย ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
วันนี้ (17 ธ.ค.65) พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ควบคุมตัว นายพีรสิน หรือพี อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาใช้ปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ยิง นายคมสัน หรือม่อน อายุ 32 ปี เสียชีวิตบน สน.หลักสอง และยิงทนายความของนายคมสัน จนได้รับบาดเจ็บ ไปขออำนาจศาลอาญา ธนบุรี ฝากขังผัดแรก หลังไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุจฉกรรจ์ ระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถคุมขัง นายพีรสิน ที่ใช้เสื้อคลุมปิดบังใบหน้า ปฏิเสธที่จะขอโทษครอบครัวผู้ตาย และไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน
พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำตลอดทั้งคืน เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุจริง แต่ระหว่างสอบปากคำ แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ก็มีความเครียด และความกังวลเล็กน้อย โดยปมสังหารครั้งนี้ พบว่า มาจากความเครียด หลังผู้ต้องหา ถูกผู้ตายใช้สนับมือต่อยที่ใบหน้า จนบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากขัดแย้งกันจากเหตุรถชน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 และนับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาก็ไม่เคยเจอกับผู้ตาย แม้แต่ครั้งเดียว กระทั่งได้มาเจอเมื่อวานนี้ ที่พนักงานสอบสวนนัดทั้งสองคนมาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุยิงกัน ขณะที่ พนักงานสอบสวน ได้ตัดสินใจว่าจะส่งสำนวนคดีฟ้องศาล เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวนั้น แฟนของผู้ก่อเหตุได้ถามผู้ตายว่าเหตุใดไม่คิดขอโทษ ผู้ตายจึง “ขอโทษ” ด้วยน้ำเสียง และกริยาที่ไม่เต็มใจ ทำให้ ผู้ก่อเหตุตัดสินใจลุกจากเก้าอี้ และเดินออกจากห้องสอบสวน จากนั้นไม่นาน ผู้ก่อเหตุก็หวนกลับมายิงผู้ตาย
ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัย เหตุใด ตำรวจ สน.หลักสอง จึงปล่อยประชาชนให้พกปืนขึ้นสถานที่ราชการ พ.ต.อ.ธีระชัย บอกว่า เมื่อวานนี้ ทั้งสองฝ่ายเดินทางมากับทนาย และครอบครัว และไม่มีท่าทีจะก่อเหตุร้าย จึงไม่ได้ตรวจร่างกายเข้มงวด ซึ่งนับว่ากรณีดังกล่าวเป็น เหตุซึ่งหน้า ยืนยันทางผู้บังคับบัญชา จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะเร่งพิจารณา หามาตรการรักษาความปลอดภัยในเรื่องการพกปืนเข้าสถานที่ราชการ ต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งข้อหา แก่นายพีรสิน คือฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง พยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ.-สำนักข่าวไทย