ทำแผนอดีต ผกก.ขโมยรถ อ้างทำไปเพราะไม่รู้ตัว

กทม. 20 มิ.ย.-ตำรวจ สน.หลักสอง คุมตัวอดีตผู้กำกับการศึกษา ภาค 4 ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุขโมยรถหรูในเต็นท์ย่านบางแค ก่อนถูกจับได้ อ้างทำไปเพราะไม่รู้ตัว

พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ควบคุมตัวพันตำรวจเอกพันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ อดีตผู้กำกับการฝ่ายบริการศึกษา ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านจำหน่ายรถยนต์มือสองบิ๊กออโต้ ถนนกาญจนาภิเษก เขตบางแค หลังจากที่ตำรวจสืบสวนสามารถจับตัวได้เมื่อช่วงเย็นวานนี้พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เอเวอเรสต์ มูลค่าประมาณ 1.7 ล้านบาท ที่ขโมยออกจากร้านไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา


ซึ่งระหว่างทำแผน อดีตผู้กำกับการคนดังกล่าว ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน การจับผู้ต้องครั้งนี้ ตำรวจได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดของร้านใกล้เคียง จนพบว่าได้ขับรถไปที่บ้านพักซอยบางแวก 81 ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน

พันตำรวจเอกวงกต สุวรรณวัตน์ ผู้กำกับการ สน.หลักสอง ระบุว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยรถคันดังกล่าว แต่ทำไปเพราะมีอาการทางจิตไม่สามารถควบคุมสติสัมปชัญญะและร่างกายในการก่อเหตุได้ ส่วนสาเหตุและรายละเอียดอื่นๆ ผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใดๆ จากการสังเกตพบว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีลักษณะอาการไม่มีสติรู้ตัว เพราะยังสามารถให้การได้ตามปกติ


ด้านพันตำรวจโทวัชรพัฒน์ เรืองอัครนนท์ รองผู้กำกับการ สอบสวน สน.หลักสอง ระบุว่า จากการสอบปากคำมาตลอดคืน พนักงานสอบสวน เชื่อว่าผู้ต้องหามีสติครบถ้วน ไม่มีความจำเป็นต้องมีการเรียกสอบครอบครัว หรือต้องสอบปากคำแพทย์ถึงอาการการป่วยทางจิต ตามที่มีการตั้งประเด็นไว้ก่อนหน้านี้ เพราะเชื่อว่าขณะก่อเหตุมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ลำดับเหตุการณ์ได้อย่างครบถ้วน ส่วนเรื่องการประกันตัว ในชั้นสอบสวนจะไม่มีการคัดค้านการประกันตัว

ขณะที่ ที่ปรึกษาการขาย และเจ้าของเต็นท์รถ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาเดินเข้ามาติดต่อขอดูรถยนต์ราคาสูงหลายรุ่น และขอเป็นรุ่นรถที่ใช้ระบบกุญแจธรรมดาท่าทางปกติไม่มีพิรุธ โดยรถคันที่ถูกขโมยไปเป็นรถที่จอดอยู่หน้าทางออก จากนั้นได้ทำทีขอดูออฟชั่นของรถ ก่อนขึ้นไปทดลองขับและขับรถออกจากร้านไปทันที ทั้งนี้คาดสาเหตุที่ขอดูรถที่ใช้กุญแจธรรมดาสตาร์ท เนื่องจากเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาก่อน แต่ครั้งนั้นถูกจับกุมได้เพราะดับรถที่ใช้ Push Start

สำหรับ พันตำรวจเอกพันธุ์ศิริ พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วเมื่อปี 2558 ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน ทำทีวางแผนเข้าไปซื้อรถยนต์มือสอง จากเต็นท์รถยนต์มือสอง และใช้สเปรย์ระงับกลิ่นกายฉีดใส่พนักงาน ก่อนจะถูกจับตัวได้ในวันรุ่งขึ้นย่านถนนข้าวสาร และศาลลงโทษจำคุก 5 ปี ก่อนพ้นโทษออกมาแล้วก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง และจะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ฝากขังพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง