สำนักข่าวไทย 20 ก.ย. – แพทยสภาพร้อมด้วยแพทยสมาคมฯ ผนึกกำลังร่วมกับราชวิทยาลัยการแพทย์ 15 แห่ง ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกวิธี ค้านการใช้เพื่อสันทนาการ ห่วง 2 แนวคิด ทั้งกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด และหนุนให้ประชาชนปลูกรักษาโรคเอง ทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิด หนุนนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดให้โทษ เพื่อให้หน่วยงานรัฐสามารถควบคุมไม่ใช่ในทางที่ผิดได้ แจงปลูกเองได้กัญชาไม่มีคุณภาพ และไม่สามารถแยกแยะการใช้เพื่อสันทนาการหรือทางการแพทย์ ผลกระทบมีให้เห็นคนนำกัญชาไปผสมอาหารขาดคนรับผิดชอบ
แพทยสภา, แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และอีก 15 ราชวิทยาลัย ประกอบด้วย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์, ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ, ราชวิทยาลัยจักษุฯ, ราชวิทยาลัยจิตแพทย์ฯ, ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกฯ, ราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ฯ, ราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์ฯ, ราชวิทยาลัยเวชศาสตร์ฟื้นฟูฯ, ราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวฯ, ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ฯ, ราชวิทยาลัยรังสีแพทย์ฯ, ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ, ราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์ฯ, ราชวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินฯ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกวิธี คัดค้านการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ และขอให้ทุกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาได้มีกลไกที่จะยับยั้งการใช้กัญชา เพื่อสันทนาการด้วยเสมอ
โดยเนื้อหาของแถลงการณ์ดังกล่าว มีการระบุห่วงกังวลกับปัญหาจากการใช้กัญชาใน 2 ข้อที่อาจก่อปัญหาในปัจจุบันและผลเสียต่อไปในอนาคต คือ
1.กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษ ทางการแพทย์และกฎหมายสากล กัญชาคือยาเสพติดให้โทษ จึงต้องมีกฎหมายควบคุมเพื่อไม่ให้ใช้ในทางที่ผิด การกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษตามทางการแพทย์และกฎหมายสากล จะทำให้หน่วยงานรัฐนำกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับยาเสพติดมาควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดได้ การมุ่งให้ความรู้โดยไม่มีกฎหมายควบคุม ไม่สามารถจัดการปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นว่าหลังวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2565 องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ มากมายต้องออกกฎระเบียบของตน เพื่อปกป้องคนในองค์กรหรือหน่วยงานจากกัญชาแทนกฎหมายจากรัฐบาล
2.การให้ประชาชนปลูกและใช้กัญชารักษาโรคเอง แนวคิดนี้ขัดแย้งกับกัญชาทางการแพทย์และการควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิด เนื่องจากกัญชาที่ประชาชนทั่วไปปลูกเป็นกัญชาไม่มีคุณภาพและปนเปื้อนง่าย กัญชาเป็นพืชที่ดูดซับสารพิษและโลหะหนักได้มาก การปลูกแบบมีคุณภาพทำได้ยากท ให้สารสำคัญ เช่น THC,CBD ในผลผลิตมีปริมาณที่ไม่แน่นอน และ ประชาชนไม่มีความรู้ด้านกัญชาทางการแพทย์มากพอ ขณะที่กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษที่อันตราย กัญชาทาง การแพทย์ก็เป็นศาสตร์ที่ลึกซึ้งและมีรายละเอียดมาก เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ประเทศไทยและประเทศต่างๆ ได้กำหนดให้แพทย์และเภสัชกรต้องได้รับการอบรมกัญชาทางการแพทย์ก่อนจึงจะให้รักษาได้ การให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านกัญชาทางการแพทย์รักษาผู้ป่วย นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยัง อาจก่อให้เกิดโทษร้ายแรงต่อผู้ป่วยได้อีกด้วย, การไม่สามารถแยกระหว่างกัญชาทางการแพทย์กับกัญชาเพื่อสันทนาการ ผู้ที่เสพกัญชาเพื่อสันทนาการสามารถใช้เหตุผลทางการแพทย์เพื่อคงการใช้แบบนันทนาการของตน, เยาวชนหรือคนอื่นเข้าถึงกัญชาได้โดยง่าย เนื่องจากผู้ ปลูกอาจจะมีความย่อหย่อนในการป้องกันเยาวชนหรือคนอื่นเข้าถึงการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ, การนำกัญชาไปผสมอาหารจนเกิดผลเสียต่อสุขภาพ โดยไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบได้, การเสพเพื่อสันทนาการที่บ้านไม่เป็นความผิด ทั้งที่การเสพนั้นจะเป็นผลเสียต่อผู้เสพและผู้ใกล้ชิดในครอบครัว รวมทั้งเด็กและเยาวชน ทั้งระยะฉับพลันและระยะยาว
ด้าน ศ.เกียรติคุณ นพ.สมศักดิ์ โลห่เลขา ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากมีสื่อให้ความสนใจและเสนอข่าวเกี่ยวกับผลกระทบมจากกัญชา ไม่ว่าจะเป็นในอาหารหรือในผลิตภัณฑ์ ทำให้พ่อแม่มีความรู้เท่าทันมากขึ้น ไม่ให้ลูกทานอาหาร หรือขนมที่มีส่วนผสมของกัญชา เพราะอาจเกิดผลกระทบระยะยาว อย่างไรก็ตาม ในทางการแพทย์ที่ราชวิทยาลัยต่าง ๆ เรียกร้อง คือ ต้องการให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และสนับสนุนในทางการแพทย์ ไม่ใช่เสรีแบบนี้ เพราะประโยชน์ทางการแพทย์ที่ได้จากการใช้กัญชารักษาโรคมีแต่น้อย โรคบางโรคแม้ใช้กัญชารักษาแล้ว ก็ใช่ว่าจะหายขาดแค่ทุเลา ส่วนที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขอ้างว่ามีประกาศกระทรวงครอบคลุม แต่อย่าลืมเป็นเพียงการให้คำแนะนำว่าควรใช้เท่าไหร่ อย่างไร แต่ไม่มีการบทลงโทษ ควบคุม ทำให้เกิดการควบคุมการใช้กัญชาไม่ได้.-สำนักข่าวไทย