บช.น. 5 ก.ย.- ตำรวจยืนยัน พ.ร.บ.จราจรฉบับใหม่ จะเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายและลงโทษผู้กระทำผิด โดยช่วงแรกจะเน้นประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลก่อน ส่วนเรื่องที่นั่งแคปกำลังพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ ขณะที่เรื่องคาร์ซีท ให้รอติดตามความคืบหน้าอีกสักระยะ
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลรับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงการบังคับใช้กฎหมายจราจรฉบับแก้ไขใหม่วันแรกว่า การบังคับใช้ยังเป็นปกติ เนื่องจากกฎหมายฉบับใหม่เป็นการแก้ไขบทลงโทษให้หนักและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะความผิด และไม่ได้มีผลให้ตำรวจจราจรต้องเร่งหรือเพิ่มผลการจับกุมผู้ใช้รถแต่อย่างใด โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีนโยบายไม่ตั้งด่านในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร
ส่วนอัตราโทษที่เพิ่มขึ้นนั้นขอยืนยันว่าประชาชนว่าในช่วง 3 เดือน แรกของการบังคับใช้กฎหมายฉบับ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยังคงเกณฑ์ค่าปรับกลาง (ยี่ต๊อก) ที่ใช้กับกฎหมายฉบับเก่าอยู่ไปก่อน จากนั้นจะมีการพิจารณาปรับเกณฑ์ค่าปรับกลางต่อไป โดยในช่วงนี้จะเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนผู้ใช้รถให้ทราบถึงการปรับขึ้นค่าปรับไปพร้อมกัน
สำหรับการคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์กระบะ 4 ประตู นั้นจะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันนี้ ส่วนกระบะที่นั่งแคปนั้นกำลังพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การใช้เพื่อความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการออกประกาศเรื่องที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ได้รับคำตอบว่า ขอให้ประชาชนติดตามความคืบหน้าไปอีกสักระยะ ยังไม่ต้องเร่งซื้อหาที่นั่งสำหรับเด็กมาติดตั้งในรถยนต์ เพราะภาครัฐกำลังกำหนดแนวทางให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด โดยมีทางออกที่จะมาควบคู่กับการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือ คาร์ซีท คือการกำหนดวิธีเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก ซึ่งกำลังพิจารณาวิธีที่ปลอดภัยสูงสุด
พล.ต.ต.จิรสันต์ ยังกล่าวถึงมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพขึ้นตาม พ.ร.บ.จราจร ฉบับใหม่ ว่าต่อไปกรณีพบผู้ขับขี่รถยนต์หมดสติพนักงานสอบสวนสามารถให้แพทย์ตรวจหาแอลกอฮอล์ทางกระแสเลือดได้ทันที โดยไม่ต้องขอความยินยอม และกรณีเมาแล้วขับนั้นหากผู้ขับขี่มีการกระทำความผิดซ้ำในช่วง 2 ปี ก็จะมีบทเพิ่มโทษจำคุกและปรับอีกด้วย
ขณะที่การขับรถฝ่าฝืนทางม้าลายนั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลประสานกับทางนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ช่วยดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามทางม้าลายกว่า 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อตรวจจับบันทึกภาพผู้ฝ่าฝืน เพื่อออกใบสั่งไปถึงผู้ขับขี่ รวมทั้งโดยปัจจุบันมีระบบการตัดแต้มผู้ไม่คอยเสียค่าปรับใบสั่ง โดยหากโดนตัดแต้มจนหมดจะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ระหว่างนั้นหากยังนำรถมาขับขี่อีกจะมีโทษถึงขั้นจำคุก.-สำนักข่าวไทย