ซิดนีย์ 16 มิ.ย.- สถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ปะทุขึ้นครั้งล่าสุดตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน สร้างความหวั่นวิตกให้แก่ทั่วโลก เนื่องจากอิสราเอลได้โจมตีอิหร่านครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยโจมตีอิหร่านมาก่อน ขณะที่อิหร่านเผยให้โลกได้เห็นถึงศักยภาพด้านอาวุธที่สั่งสมมา
“เปิดประตูนรก” ตอบโต้ “ปฏิบัติการสิงโตผงาด”
เว็บไซต์เอบีซีนิวส์ (ABC News) ของออสเตรเลียระบุว่า เป็นที่เชื่อกันว่าอิหร่านสั่งสมขีปนาวุธทิ้งตัวจำนวนมากที่สุดและหลากหลายมากที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะนี้อิหร่านได้แสดงศักยภาพดังกล่าวให้เห็นแล้ว นับตั้งแต่อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่านประกาศจะ “เปิดประตูนรก” (the gates of hell) ตอบโต้ที่อิสราเอลเปิดฉาก “ปฏิบัติการสิงโตผงาด” (Operation Rising Lion) สังหารนายทหารหลายนายและทำลายที่ตั้งทางนิวเคลียร์หลายแห่งของอิหร่าน

อิสราเอลระบุว่า โจมตีอิหร่านโดยไม่ให้ตั้งตัว หวังขัดขวางโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธทิ้งตัว เพื่อทำให้อิหร่านต้องใช้เวลามากขึ้นในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลคร่าชีวิตคนในอิหร่านไปแล้วอย่างน้อย 242 คน
ท้องฟ้าอิสราเอลสว่างด้วย “แสงระเบิด”
อิหร่านระดมส่งฝูงโดรนและขีปนาวุธโจมตีหลายเมืองทั่วอิสราเอล จนท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสวไปด้วยแสงระเบิด อาวุธบางส่วนสามารถเล็ดลอดระบบป้องกันภัยทางอากาศชั้นสูงของอิสราเอล สังหารคนในอิสราเอลอย่างน้อย 13 คน และได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า อิหร่านระดมยิงขีปนาวุธทิ้งตัวมายังอิสราเอลแล้วราว 200 ลูก ขณะที่สมาชิกกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามหรือไออาร์จีซี (IRGC) ของอิหร่านเปิดเผยว่า เดิมอิหร่านตั้งใจจะระดมยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอลมากถึง 1,000 ลูก แต่เนื่องจากถูกอิสราเอลโจมตีฐานที่ตั้งขีปนาวุธ จึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายขีปนาวุธจากคลังเก็บไปยังฐานยิงได้รวดเร็วเพียงพอ

“ขีปนาวุธทิ้งตัว” มากที่สุดในตะวันออกกลาง
สำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐประเมินว่า อิหร่านสั่งสมขีปนาวุธทิ้งตัวประมาณ 3,000 ลูก มากที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยได้เดินหน้าพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลมาหลายทศวรรษ และมีขีปนาวุธพิสัยใกล้จำนวนมาก รวมทั้งอาจมีอาวุธความเร็วเหนือเสียงด้วย
ประสิทธิภาพของ “ขีปนาวุธทิ้งตัว”
ขีปนาวุธทิ้งตัว (ballistic missile) ถูกยิงสกัดได้ยากกว่าอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน และหากระดมยิงพร้อมกันจำนวนมากก็จะทำให้ระบบป้องกันภัยอากาศไม่สามารถรับมือได้ ขีปนาวุธประเภทนี้ขับเคลื่อนด้วยจรวด ถูกยิงเหมือนกระสุนที่ออกจากกระบอกปืน จากนั้นจะพุ่งขึ้นไปโดยไม่ต้องอาศัยแรงขับดัน และไปตามแนววิถีที่มุ่งไปยังเป้าหมาย เมื่อขีปนาวุธพุ่งด้วยความเร็วสูงสุดไปจนถึงระดับที่สูงที่สุด ก็จะเริ่มทิ้งตัวดิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว
ศ.สเตฟาน ฟรูห์ลิง จากศูนย์ยุทธศาสตร์และกลาโหมศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียอธิบายว่า ประสิทธิภาพของขีปนาวุธทิ้งตัวอยู่ที่ความสามารถในการรักษาแนววิถีเมื่อถูกยิงออกไป โดยร่อนไปตามเส้นทางที่คาดหมายไว้ แล้วตกลงมาในมุมที่ค่อนข้างชันด้วยความเร็วสูงมาก จึงยากต่อการยิงสกัดได้ทัน สำนักข่าวอิสนา (ISNA) กึ่งทางการอิหร่านรายงานเมื่อปี 2567 ว่า อิหร่านมีขีปนาวุธ 9 ประเภทที่อ้างว่า สามารถยิงได้ไกลถึงอิสราเอลที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 1,000 กิโลเมตร
Final Thoughts: ศึกครั้งนี้ไม่น่าจะจบในเร็ววัน
ศ.ฟรูห์ลิงมองว่า ปฏิบัติการสิงโตผงาดของอิสราเอลได้แสดงให้โลกเห็นแล้วว่า อิสราเอลมีข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับอิหร่านยอดเยี่ยมมากเพียงใด และอยู่ในฐานะที่สามารถเจาะลึกเดินหน้าไปได้อีกในระยะยาว สถานการณ์ความขัดแย้งในขณะนี้อาจพัฒนาไปสู่รูปแบบใหม่ที่เป็นการทำสงครามไม่รุนแรง อิสราเอลจะโจมตีอิหร่านต่อไปจนกว่าสถานการณ์ในภาพรวมเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ซึ่งอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในอิหร่าน.-814.-สำนักข่าวไทย