ย่างกุ้ง 16 พ.ย.- นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมาร์ที่กองทัพสังหารประชาชนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ชาวโรฮิงยาหลายร้อยคนต้องหนีไปยังชายแดนติดกับบังกลาเทศ
นายอันนันออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้แสดงความกังวลอย่างยิ่งที่เกิดเหตุรุนแรงทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ทำให้สถานการณ์ยิ่งไร้เสถียรภาพและผู้คนต้องไร้ที่อยู่อาศัยครั้งใหม่ ทุกชุมชนจะต้องประณามความรุนแรง เขาขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงปฏิบัติตามหลักนิติธรรมอย่างเต็มที่ ด้านคณะกรรมการว่าด้วยสถานการณ์รัฐยะไข่ที่นายอันนันเป็นประธานได้ไปพบสนทนากับเจ้าหน้าที่เมืองซิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ และจะเดินทางไปยังหมู่บ้านที่เกิดเหตุรุนแรงในวันนี้ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงแสดงความกังวลต่อรายงานข่าวเรื่องรัฐยะไข่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ขอให้รัฐบาลเมียนมาร์อนุญาตให้มีการสอบสวนอย่างอิสระและเชื่อถือได้
กองทัพเมียนมาร์ปิดล้อมพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมตั้งแต่เกิดเหตุคนร้ายบุกป้อมตำรวจหลายแห่งพร้อมกันเมื่อเดือนก่อน จากนั้นได้ตามล่าผู้ต้องสงสัยและสังหารคนไปกว่า 70 คน โดยอ้างว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชาวโรฮิงยาที่พัวพันกับกลุ่มต่างประเทศ ขณะที่กลุ่มสิทธิกล่าวหากองทัพว่าสังหารพลเรือนไร้อาวุธ ข่มขืนสตรีและเผาบ้านเรือน สถานการณ์กลับมารุนแรงอีกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อทหารสังหารคนไปกว่า 30 คน และนำเฮลิคอปเตอร์ติดปืนกลมาใช้เป็นครั้งแรก ชาวโรฮิงยาร่วม 200 คนต้องหนีภัยไปยังชายแดนบังกลาเทศและถูกหน่วยตระเวนชายแดนบังกลาเทศผลักดันไม่ให้เข้าประเทศ สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติเผยว่า ประชาชน 15,000 คนต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย และอีก 150,000 คน ไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมานานกว่าเดือนแล้ว.-สำนักข่าวไทย