ภรรยาทรัมป์ ประณามความรุนแรง

สหรัฐอเมริกา 11 ม.ค. – เมลาเนีย ทรัมป์ ‘เฟิร์สต์ เลดี้’ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับความรุนแรงจากเหตุการณ์บุกอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฝีมือของกลุ่มผู้ก่อจลาจลที่สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สามีของนางเอง


เมลาเนีย ทรัมป์ ออกแถลงการณ์ยาว เผยแพร่ทางเว็บไซต์ทำเนียบขาวและแชร์ผ่านทวิตเตอร์แอคเคาท์ของนางเอง ในเช้าวันนี้ โดยได้แสดงความเสียใจต่อผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์บุกอาคารรัฐสภาทั้ง 6 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอาคารรัฐสภาด้วย

“ดิฉันรู้สึกผิดหวังและท้อแท้ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันเห็นว่าเป็นสิ่งที่น่าละอายที่เหตุการณ์อันน่าเศร้าใจทำให้เกิดการติฉินนินทาว่าร้าย เกิดการโจมตีกล่าวโทษ และการกล่าวหาชี้นำด้วยข้อมูลที่บิดเบือนที่มีต่อตัวดิฉันจากผู้ที่ดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องและมีวาระแอบแฝง ซึ่งเวลานี้ควรจะเป็นเวลาของการเยียวยาประเทศชาติและประชาชน ไม่ควรใช้ (เวลานี้) ไปในการแสวงหาประโยชน์ส่วนตน” สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกล่าว


“แน่นอน ดิฉันประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่อาคารรัฐสภา” เมลาเนีย ทรัมป์ ย้ำพร้อมวิงวอนประชาชนว่าอย่าได้ตั้งสมมุติฐานบนพื้นฐานของสีผิวและใช้ความอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันมาเป็นเหตุผลหรือเป็นฐานในการรุกรานก่อเหตุการณ์ที่เลวร้าย

นอกจากนี้ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ขอร้องให้ประชาชนมุ่งความสนใจให้ความสำคัญกับสิ่งที่จะทำให้คนอเมริกันสามัคคีกัน ไม่มุ่งความสนใจไปในสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกแยก

“นับเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจที่ได้เห็นประชาชนชาวอเมริกันพากันตื่นตัว กระตือรือร้น ทุกคนดูมี passion หรือแรงผลักดันในการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง แต่เราจะต้องไม่ยอมให้ passion นั้นแปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรง” เมลาเนีย ทรัมป์ กล่าว


อย่างไรก็ตาม สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง “no comments” ไม่ได้แสดงความคิดเห็นว่าใครต้องรับผิดชอบในการปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และไม่ได้กล่าวถึงกรณีที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ให้มีการถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้เป็นสามีของนางออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ก่อนที่โจ ไบเดน จะเข้าสู่พิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไป

เมลาเนีย ทรัมป์ กล่าวสรุปในตอนท้ายของแถลงการณ์เพียงว่า “นับเป็นเกียรติประวัติของชีวิตที่ดิฉันได้รับใช้(ชาวอเมริกัน)ในฐานะ ‘เฟิร์สต์ เลดี้’ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย

Cr. https://www.whitehouse.gov/articles/first-lady-melania-trump-path-forward/, nbcnews

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง