ยุโรป 15 มิ.ย.- สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในยุโรปคลี่คลายลงแล้ว เวลานี้หลายประเทศกำลังเร่งผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรค เพื่อเปิดทางให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป
ในวันนี้ห้างค้าปลีกและร้านค้าที่ไม่มีความจำเป็นในอังกฤษเตรียมเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลทยอยผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคที่ทำให้ห้างร้านและธุรกิจต่างๆ ต้องปิดตัวลงตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นมา แต่การกลับมาเปิดร้านรอบใหม่นี้จะต้องมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม มีเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือไว้บริการลูกค้า ขณะที่พนักงานประจำห้างร้านก็จะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันใบหน้า และก่อนที่ร้านค้าจะเปิดทำการในวันนี้
เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้ออกไปตรวจเยี่ยมร้านค้าต่างๆ และพูดคุยกับพนักงานในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน โอกาสนี้ ผู้นำอังกฤษเรียกร้องให้ประชาชนออกมาจับจ่ายกันด้วยความมั่นใจ แต่ก็ขอร้องให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ขณะที่อังกฤษมียอดผู้ติดเชื้อสะสมราว 297,000 คน เสียชีวิต 41,700 คน
ส่วนที่ฝรั่งเศสประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ประกาศว่าฝรั่งเศสได้เปิดเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบแล้ว รวมทั้งร้านอาหารทั้งหมดเพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะอนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารภายในร้านได้ และจะเริ่มเปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.นี้
ส่วนการเปิดพรมแดนกับประเทศในยุโรปจะเริ่มขึ้นในเวลาเที่ยงคืนวันนี้ และจะเปิดรับผู้มาเยือนจากภูมิภาคอื่นๆ ในวันที่ 1 เดือนหน้า รัฐบาลคาดว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจในปีนี้หดตัวถึงร้อยละ 11
ด้านนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ของสเปน ประกาศว่าสเปนมีแผนจะเปิดพรมแดนต้อนรับผู้เดินทางจากกลุ่มเชงเก้นยกเว้นโปรตุเกสตั้งแต่วันที่ 21 เดือนนี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม 10 วัน รวมทั้งจะยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันเดียวกัน หลังประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ส่วนการเดินทางในประเทศสามารถเดินทางได้อย่างเสรี แต่ทุกคนจะต้องสวมหน้ากากในการใช้รถโดยสารสาธารณะ และการอยู่ในที่ที่มีผู้คนหนาแน่น.-สำนักข่าวไทย