สหรัฐเตือนเดินทางไปจีนทั้งประเทศ แคนาดาเตือนเฉพาะหูเป่ย์

วอชิงตัน 28 ม.ค.- สหรัฐแจ้งเตือนให้ทบทวนการเดินทางไปจีนทั้งประเทศ ขณะที่แคนาดาเตือนให้หลีกเลี่ยงเฉพาะการเดินทางไปมณฑลหูเป่ย์ ศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  ด้านสื่อจีนแจ้งยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 106 คน ติดเชื้อ 4,193 คน 


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐทวีตเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐกำลังสื่อสารกับจีนอย่างใกล้ชิดเรื่องเชื้อไวรัส แม้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐน้อยมาก แต่ก็กำลังเฝ้าระวังอย่างจริงจัง สหรัฐได้เสนอให้ความช่วยเหลือหากจีนและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงต้องการ เพราะผู้เชี่ยวชาญสหรัฐมีความพิเศษอย่างยิ่ง เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแจ้งเตือนการเดินทางไปจีนล่าสุดเมื่อวานนี้ไว้ที่ระดับ 3 คือ ให้ทบทวนการเดินทาง เนื่องจากพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นของจีนตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมปีก่อนและการระบาดยังคงเพิ่มขึ้น กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอ้างศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐว่า ได้แจ้งเตือนภัยระดับ 3 ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นไปจีนทั้งหมด เพราะทางการจีนประกาศกักกันและจำกัดการเดินทางทั่วทั้งประเทศ และเตือนภัยระดับ 4 ไม่ควรเดินทางไปมณฑลหูเป่ยของจีนเพราะพบเชื้อครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นในมณฑลนี้ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุด้วยว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่จำเป็นและครอบครัวเดินทางออกจากมณฑลหูเป่ยตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมแล้ว เพราะรัฐบาลมีความสามารถจำกัดในการให้บริการฉุกเฉินแก่พลเมืองอเมริกันในมณฑลนี้

เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศแคนาดาแจ้งเตือนการเดินทางไปจีนล่าสุดเมื่อวานนี้ให้ใช้ความระมัดระวังระดับสูงเพราะเสี่ยงที่จะมีการใช้กฎหมายท้องถิ่นตามอำเภอใจ และเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปมณฑลหูเป่ย์ทั้งหมด เพราะมีการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาด


หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีของจีนรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 106 คน ติดเชื้อ 4,193 คน ขณะที่คณะกรรมาธิการสุขภาพมณฑลหูเป่ยแจ้งวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 76 คน เป็น 100 คนจนถึงวันจันทร์ และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 2,714.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสมีลูก 2 คนกับอดีตสามี ส่วนสามีคนปัจจุบัน คือ คู จุน ย็อบ หรือดีเจ คู เป็นนักร้องชาวเกาหลีใต้วัย 55 ปี.-814.-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” พอใจผลเลือก อบจ. เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่

“นายกฯ แพทองธาร” พอใจผลเลือกตั้งนายก อบจ. บอกต้องนำมาวิเคราะห์หมด ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่ คุ้มสตางค์ค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง แจงปราศรัยเดือดไม่ใช่คาแรคเตอร์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้