โคเปนเฮเกน 29 ส.ค. – องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 มีผู้ป่วยโรคหัดถึง 89,994 ราย ใน 48 ประเทศยุโรป หรือมากกว่า 2 เท่าของช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่ออิงจากตัวเลขที่เปรียบเทียบกัน ก็มี 4 ประเทศ คือ สหราชอาณาจักร กรีซ สาธารณรัฐเช็ก และแอลเบเนีย ที่ถูกถอดจากสถานะปลอดโรคหัด
ทั้งนี้ การประกาศให้ประเทศหนึ่งประเทศใดเป็นปลอดโรคหัดนั้น ประเทศนั้นๆ จะต้องไม่มีการติดต่อของโรคเป็นเวลา 12 เดือน หรือมากกว่า รายงานระบุว่า ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคหัดมากถึง 364,808 คน หรือมากเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยประเทศที่พบผู้ป่วยมใกที่สุดคือสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และทางองค์การอนามัยโลกได้เรียกร้องให้มีการให้วัคซีนป้องกันให้ทั่วถึง
โรคหัดเป็นโรคติดเชื้อทางอากาศที่มีการติดต่อได้ง่าย โดยจะทำให้มีไข้ ไอ และมีผื่น นอกจากนี้ในรายที่แพ้ ยังอาจทำให้มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ตาบอด รวมถึงแท้งบุตรได้ในหญิงมีครรภ์ และบางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิต โดยในครึ่งแรกของปีนี้มีผู้เสียชีวิตเพราะโรคหัดแล้ว 37 ราย .-สำนักข่าวไทย