ลอสแอนเจลิส 13 ส.ค.- สังคมสหรัฐพากันพูดถึงเหตุข่มขืนในมหาวิทยาลัยอีกครั้ง เมื่อผู้กระทำผิดถูกตัดสินจำคุกเพียง 2 ปี ขณะที่เหยื่อทนทุกข์ทรมานเหมือนตายทั้งเป็นและพยายามฆ่าตัวตายหนีฝันร้ายหลายครั้ง
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยบราวน์เมื่อปีก่อนระบุว่า นักศึกษาสตรีในสหรัฐกว่า 1 ใน 6 คนถูกข่มขืนภายในมหาวิทยาลัยขณะเรียนอยู่ชั้นปีหนึ่งเพราะเมาสุราหรือถูกมอมสุรา ล่าสุดนายออสติน เจมส์ วิลเคอร์สัน อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยโคโลราโดวัย 22 ปีถูกศาลตัดสินเมื่อวันพุธให้ต้องโทษจำคุก 2 ปี และทำทัณฑ์บน 20 ปีจนถึงตลอดชีวิตจากคดีข่มขืนเพื่อนนักศึกษาหญิงชั้นปีหนึ่งที่เมาสุราหลังงานเลี้ยงในมหาวิทยาลัยเมื่อเดือนมีนาคม 2557 อีกทั้งยังเป็นโทษจำคุกที่อนุญาตให้ปล่อยตัวในวันที่ไปทำงานหรือไปเรียนหนังสือ
ขณะที่สื่อสหรัฐพากันเผยแพร่คำให้การของเหยื่อต่อศาลว่า ชีวิตของเธอพังยับเยินทั้งทางจิตใจ การเรียน การเงิน และสังคมจากเหตุการณ์ดังกล่าว เธอพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งจากฝันร้ายและความหวาดผวา เพราะความรู้สึกเลวร้ายกลับมาหลอกหลอนตลอดเวลาทั้งที่คิดว่าสภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว สาเหตุที่เธอยอมเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองเพราะไม่อยากให้คนร้ายไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก และได้เห็นความกล้าหาญของผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน ด้านเหยื่อข่มขื่นอีกรายที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันเมื่อปีก่อนเขียนจดหมายเปิดผนึกประณามผู้พิพากษาว่า คำตัดสินดังกล่าวเท่ากับบอกวัยรุ่นชายว่าตราบใดที่เป็นคนผิวขาว แสร้งแสดงความเสียใจและทำตัวดี ๆ ระหว่างการไต่สวน ก็สามารถข่มขืนใครต่อใครได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลงโทษ.-สำนักข่าวไทย